สิ่งที่ควรรู้ก่อนผ่าตัดถุงใต้ตา

ถุงใต้ตาเยอะ ทำให้หน้าโทรม ดูแก่กว่าวัย และเป็นปัญหาที่ทำให้หลาย ๆ คนหมดความมั่นใจ เพราะจะแต่งหน้ากลบแค่ไหนก็ไม่มิด! แต่ปัญหาถุงใต้ตานี้สามารถแก้ไขได้ค่ะ โดยในบทความนี้ จะพูดถึงการแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาแบบถาวรด้วยวิธีการผ่าตัด แต่ก่อนจะตัดสินใจ ควรศึกษาหาข้อมูลกันให้ดีเสียก่อน เพื่อเลือกเทคนิคการผ่าตัดที่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดค่ะ สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจผ่าตัดมีอะไรบ้าง ? ตามไปดูกันได้เลยย ~ 

ถุงไขมันใต้ตาเกิดจากอะไร?

ถุงไขมันใต้ตา เกิดจากการที่เนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อบริเวณใต้ตาที่ทำหน้าที่พยุงไขมันใต้ตานั้นเสื่อมสภาพลง ทำให้ถุงไขมันถูกดันขึ้นมาจนเห็นเป็นลักษณะถุงนูนที่ชัดเจน เกิดขึ้นได้จากอายุที่เพิ่มขึ้นหรือในบางราย อาจเป็นตั้งแต่กำเนิดหรือจากกรรมพันธ์ุได้เช่นกัน 

นอกจากนี้ยังสามารถเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด มลภาวะ การขยี้ตาบ่อย ๆ การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้สามารถทำให้ผิวของเราไม่แข็งแรง เกิดการหย่อนคล้อยก่อนวัย และส่งผลให้เกิดถุงใต้ตาหย่อนคล้อยตามมาได้ค่ะ 

ถุงไขมันใต้ตา สามารถแก้ไขได้ด้วยมีวิธีใดบ้าง?

จริง ๆ แล้วปัญหาถุงใต้ตาสามารถแก้ไขได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น การฉีดฟิลเลอร์ หรือการทำทรีทเมนต์อย่างการใช้คลื่นอัลตราซาวด์ ก็สามารถช่วยให้ถุงใต้ตาที่นูนออกมาดูเรียบเนียนขึ้น หรือลดความหย่อนคล้อยของผิวบริเวณใต้ตาได้ แต่จะเลือกวิธีไหนนั้น ก็ควรให้แพทย์เป็นผู้ประเมินเพื่อที่จะแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดและเห็นผลจริง แต่วิธีที่จะสามารถกำจัดถุงไขมันให้หายไปอย่างถาวรนั้น มีเพียงวิธีเดียวก็คือ การผ่าตัด นั่นเองค่ะ

สำหรับการผ่าตัดกำจัดถุงไขมันใต้ตานั้น เทคนิคอาจแตกต่างกันไปขึ้นกับโรงพยาบาลหรือคลินิกนั้น ๆ หรือแล้วแต่ความเชี่ยวชาญของแพทย์ ซึ่งที่ Sky Clinic การกำจัดถุงไขมันใต้ตา มีด้วยกัน 2 เทคนิคหลัก ดังนี้

กำจัดถุงไขมันใต้ตาแผลใน

คือ การดูดเอาไขมันใต้ตาออก โดยการเปิดแผลขนาดเล็กที่เยื่อบุด้านในตาล่าง 

ข้อดี : ไม่มีแผลข้างนอก ทำให้ใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่าเทคนิคอื่น ๆ และไม่ต้องตัดไหม

เหมาะกับใคร : เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาถุงไขมันใต้ตา ไม่ได้มีปัญหาหนังส่วนเกินใต้ตาเยอะ

ตัวอย่างเคสผ่าตัดถุงใต้ตาด้วยเทคนิคแผลใน

เดิม : มีปัญหาถุงไขมันใต้ตา

ผลลัพธ์ : ใต้ตาเรียบเนียน ไม่มีรอยแผลเป็นที่ผิวด้านนอก

กำจัดถุงไขมันใต้ตาแผลนอก 

คือ การกำจัดถุงไขมันใต้ตา โดยการกรีดเปิดแผลที่ใต้โคนขนตาล่าง และมีการตัดหนังส่วนเกินออกร่วมด้วย ต้องตัดไหมหลังผ่าตัด 7 วัน

ข้อดี : ตัดหนังตาส่วนเกินออกได้ ซึ่งสามารถช่วยยกกระชับความหย่อนคล้อยของผิวใต้ตาได้ด้วย แต่เทคนิคนี้จะใช้เวลาในการพักฟื้นนานกว่าเทคนิคไร้รอยแผล 

เหมาะกับใคร : เหมาะกับคนอายุเยอะ หรือผู้ที่มีปัญหาถุงไขมันใต้ตาเยอะ ร่วมกับมีหนังส่วนเกินเยอะและหย่อนคล้อย หรือผู้ที่อยากเก็บหนังใต้ตาเพื่อให้ใต้ตากระชับขึ้น

ตัวอย่างเคสผ่าตัดถุงใต้ตาด้วยเทคนิคแผลนอก

เดิม : มีปัญหาถุงไขมันใต้ตา ผิวใต้ตามีความหย่อนคล้อย

ผลลัพธ์ : ใต้ตาเรียบเนียน รอยแผลอยู่ชิดขอบขนตาล่าง ผิวใต้ตามีความกระชับขึ้น

นอกจาก 2 เทคนิคนี้ ยังมีเทคนิคจัดเรียงไขมันใต้ตา ซึ่งเป็นการนำไขมันใต้ตาที่คนไข้มีอยู่แล้วไปจัดเรียงใหม่ในบริเวณที่มีปัญหาร่องลึก ทำร่วมกับเทคนิคกำจัดถุงไขมันใต้ตาแผลในหรือแผลนอก

ข้อดี : สามารถช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตาลึกให้ดีขึ้นได้ 

เหมาะกับใคร : เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาถุงไขมันใต้ตา ร่วมกับใต้ตาลึกหรือร่องโหล หลังทำจะช่วยให้ใต้ตาดูเรียบเนียนและเป็นธรรมชาติมากขึ้น 

**กรณีผู้ที่มีปัญหาทั้งถุงไขมันใต้ตาและมีร่องลึกโหล หากไม่ได้มีการจัดเรียงไขมันร่วมด้วย ปัญหาถุงไขมันที่มีจะดีขึ้น แต่ร่องโหลที่มีจะยังคงอยู่ หากไม่ต้องการทำเทคนิคจัดเรียงไขมันร่วมด้วย สามารถใช้วิธีการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแทนได้เช่นกัน ซึ่งแนะนำให้เว้นระยะเวลา 2-3 เดือน หลังการผ่าตัด (หรือตามที่แพทย์แนะนำ ซึ่งอาจแตกต่างกันในแต่ละเคส)

สิ่งที่คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับการผ่าตัดถุงใต้ตา 

• ปัญหาใต้ตาดำคล้ำ

สีผิวใต้ตาที่มีสีดำคล้ำ จะไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการผ่าตัด เนื่องจากเป็นปัญหาที่เกิดจากปัจจัยอื่นที่ไม่ได้เกิดจากถุงไขมัน สามารถดูแลรักษาให้ดีขึ้นได้ด้วยหัตถการอื่น ๆ เช่น ฟิลเลอร์ หรือ การทาครีมบำรุงอย่างสม่ำเสมอ 

• ปัญหารอยตีนกาหรือริ้วรอยใต้ตา

ปัญหาริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา หางตา หรือใต้ตา ที่เกิดจากการขยับ/แสดงสีหน้าบ่อย ๆ อายุที่เพิ่มมากขึ้น หรือจากสภาพผิวเดิมของคนไข้ ซึ่งการผ่าตัดถุงใต้ตาจะไม่สามารถทำให้ริ้วรอยนั้นหายไปได้ ต้องทำการรักษาด้วยหัตถการอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น โบท็อกซ์ หรือ เครื่องยกกระชับต่าง ๆ เพื่อให้ริ้วรอยต่าง ๆ ตื้นขึ้น

อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น ว่าเทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัดถุงใต้ตานั้นมีหลายเทคนิค แต่ละเทคนิคขึ้นกับปัญหาที่คนไข้มี หากใครที่มีความสนใจอยากแก้ไขปัญหาถุงใต้ตา แต่ไม่แน่ใจว่าตนเองควรแก้ไขด้วยวิธีไหน สามารถนัดคิวเข้ามาปรึกษากับคุณหมอก่อนได้เลยนะคะ