ใต้ตาดำภูมิแพ้แก้ยังไง รวมวิธีลดรอยคล้ำให้กลับมาสดใส
icon  icon
ใต้ตาดำภูมิแพ้มีวิธีแก้ไขอย่างไร

ใต้ตาดำภูมิแพ้แก้ยังไง แชร์เคล็ดลับดูแลผิวรอบดวงตาลดรอยดำ

ใต้ตาดำเป็นปัญหาที่หลายคนกำลังเผชิญอยู่ โดยเฉพาะคนที่มีอาการภูมิแพ้จะสามารถเกิดรอยคล้ำใต้ตาที่ชัดขึ้น ซึ่งรอยคล้ำใต้ตานอกจากทำให้ใบหน้าดูอ่อนเพลียแล้วยังส่งผลต่อความมั่นใจอีกด้วย แล้วใต้ตาดำภูมิแพ้แก้ยังไงให้ได้ผล? วันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ ในการดูแลผิวรอบดวงตาให้กลับมาสดใสอีกครั้งกัน


ใต้ตาดำภูมิแพ้ คืออะไร

ใต้ตาดำจากภูมิแพ้ (Allergic Shiner) เป็นอาการที่เกิดจากการอักเสบของผิวหนังบริเวณรอบดวงตา ทำให้เกิดรอยคล้ำสีดำหรือสีคล้ำใต้ตา เนื่องมาจากปฏิกิริยาภูมิแพ้ต่อสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ เช่น ฝุ่น ละอองเกสร ขนสัตว์ หรือสารเคมีบางชนิด เมื่อร่างกายเผชิญกับสารก่อภูมิแพ้ จะหลั่งฮิสตามีนออกมา ทำให้เกิดการอักเสบและเส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังขยายตัว ส่งผลให้เห็นเป็นรอยคล้ำใต้ตา เมื่อรู้แล้วว่าใต้ตาดำภูมิแพ้แก้ยังไงจะช่วยให้ปัญหานี้บรรเทาลงได้


อาการขอบตาดำจากภูมิแพ้เป็นอย่างไร

อาการขอบตาดำจากภูมิแพ้จะมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากรอยคล้ำใต้ตาทั่วไป บริเวณใต้ตาจะมีสีคล้ำออกเป็นสีน้ำตาลเข้ม โดยมักพบร่วมกับอาการแพ้อื่น ๆ เช่น จมูกคัด น้ำมูกไหล หรือมีอาการคันรอบดวงตา บางรายอาจมีอาการบวมจนเหมือนตาแพ้แสงร่วมด้วย ทำให้ใบหน้าดูอ่อนล้าและอ่อนเพลีย อาการมักจะรุนแรงในช่วงเช้าหลังตื่นนอนและจะแย่ลงในช่วงที่มีสารก่อภูมิแพ้ในอากาศสูง เช่น ช่วงที่มีฝุ่นละอองมาก


10 วิธีรักษาขอบตาดำจากโรคภูมิแพ้

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาคำตอบว่าขอบตาดำภูมิแพ้แก้ยังไง เรามีวิธีการรักษาทั้งแบบธรรมชาติและทางการแพทย์ที่สามารถช่วยลดรอยคล้ำใต้ตาจากภูมิแพ้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ บางวิธีสามารถทำได้เองที่บ้าน ในขณะที่บางวิธีอาจต้องอาศัยความช่วยเหลือจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มาดูวิธีการรักษาทั้ง 10 วิธีกัน


1. หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้

การหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้เป็นวิธีพื้นฐานที่สำคัญในการแก้ปัญหาใต้ตาดำภูมิแพ้ เราควรพยายามระบุสารก่อภูมิแพ้ที่กระตุ้นอาการ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสให้มากที่สุด เช่น หากแพ้ละอองเกสร ควรปิดหน้าต่างในช่วงที่มีละอองเกสรสูง หรือสวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องออกนอกบ้าน หากแพ้ฝุ่น ไรฝุ่น ควรทำความสะอาดที่นอนสม่ำเสมอและใช้ปลอกหมอนที่ป้องกันไรฝุ่น นอกจากนี้ ยังควรลดการใช้เครื่องสำอางที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้บริเวณรอบดวงตา การลดการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้จะช่วยลดการอักเสบและรอยคล้ำใต้ตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ


2. เพิ่มการไหลเวียนเลือดบริเวณใต้ตา

ทำได้โดยการนวดเบา ๆ รอบดวงตาด้วยนิ้วนางเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือด โดยเริ่มจากมุมในของตาไปยังมุมนอก และวนรอบดวงตาวันละ 2-3 รอบ หรืออาจใช้ลูกกลิ้งหยกหรือสเตนเลสที่แช่เย็นมาประคบและนวดบริเวณใต้ตา ซึ่งจะช่วยกระชับผิว ลดการบวม และเพิ่มการไหลเวียนเลือด อีกวิธีที่นิยมคือการใช้ช้อนที่แช่เย็นมากดเบา ๆ บริเวณใต้ตา วิธีนี้นอกจากจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดแล้วยังช่วยลดอาการบวมได้อีกด้วย


3. ประคบเย็นหรือน้ำแข็ง

การประคบเย็นหรือน้ำแข็งเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยบรรเทาอาการใต้ตาดำจากภูมิแพ้ได้อย่างรวดเร็ว ความเย็นจะช่วยลดการอักเสบ บรรเทาอาการบวม และทำให้เส้นเลือดฝอยหดตัว ส่งผลให้รอยคล้ำใต้ตาจางลง วิธีทำคือนำน้ำแข็งห่อผ้าสะอาด หรือใช้ถุงเจลเย็น มาประคบบริเวณรอบดวงตาเบา ๆ ประมาณ 10-15 นาที วันละ 2-3 ครั้ง หรืออาจใช้ช้อนแช่เย็นมาวางบริเวณใต้ตาก็ได้ อย่างไรก็ตาม ควรระวังไม่ให้เย็นเกินไปเพราะอาจทำให้ผิวบอบบางบริเวณรอบดวงตาเกิดอาการระคายเคืองได้


4. นอนหลับให้เพียงพอ

การนอนหลับให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืนเป็นวิธีธรรมชาติที่ดีที่สุดในการลดรอยคล้ำใต้ตา เพราะช่วงเวลาที่เรานอนหลับเป็นช่วงที่ร่างกายซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ผิว รวมถึงลดการอักเสบที่เกิดจากภูมิแพ้ หากเรานอนไม่เพียงพอ จะทำให้ผิวใต้ตาดูคล้ำและเกิดรอยดำได้ง่าย นอกจากนี้ การนอนศีรษะสูงโดยการหนุนหมอน 2 ใบจะช่วยลดการคั่งของเลือดและของเหลวบริเวณใต้ตา ทำให้อาการบวมและรอยคล้ำลดลง สำหรับคนที่มีปัญหาใต้ตาดำจากภูมิแพ้ ควรหลีกเลี่ยงการนอนดึกและมีเวลานอนที่สม่ำเสมอ


5. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

ดื่มน้ำให้เพียงพอ

การดื่มน้ำให้เพียงพอเป็นวิธีธรรมชาติที่ช่วยลดรอยคล้ำใต้ตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยปริมาณน้ำที่เหมาะสมคือ 8-10 แก้วต่อวัน น้ำจะช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย ลดการอักเสบ และรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ทำให้ผิวรอบดวงตาไม่แห้งกร้านและลดการเกิดรอยคล้ำ นอกจากนี้ น้ำยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด ทำให้เลือดไม่คั่งบริเวณใต้ตา เราควรดื่มน้ำสะอาดเป็นประจำตลอดทั้งวัน และลดการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์ เนื่องจากเครื่องดื่มเหล่านี้จะทำให้ร่างกายขาดน้ำและเพิ่มอาการใต้ตาดำได้


6. ใช้ครีมบำรุงรอบดวงตา 

การใช้ครีมบำรุงที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับผิวรอบดวงตาเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาใต้ตาดำจากภูมิแพ้ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินเค วิตามินซี คาเฟอีน และเปปไทด์ ซึ่งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ลดการอักเสบ และฟื้นฟูผิวบริเวณใต้ตา นอกจากนี้ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำหอมและสารก่อภูมิแพ้ โดยทาครีมเบา ๆ รอบดวงตาทั้งเช้าและก่อนนอน ด้วยนิ้วนาง ที่สำคัญควรทาในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มากเกินไปเพราะอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองและบวมได้ ใช้อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ผิวรอบดวงตาดูสดใสและลดเลือนรอยคล้ำได้อย่างเห็นผล


7. ลดการขยี้ตา

การขยี้ตาเป็นพฤติกรรมที่หลายคนทำโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ที่มักมีอาการคันรอบดวงตา แต่การขยี้ตาบ่อย ๆ จะทำให้เกิดการอักเสบและเพิ่มรอยคล้ำใต้ตามากขึ้น เนื่องจากผิวรอบดวงตาบอบบางมาก และการขยี้จะทำให้เส้นเลือดฝอยแตกและเกิดรอยช้ำได้ง่าย ดังนั้น เมื่อมีอาการคัน ควรใช้วิธีกดเบา ๆ แทนการขยี้ หรือประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการคัน หากมีอาการคันรุนแรงจากภูมิแพ้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับยาหยอดตาหรือยากินที่ช่วยลดอาการคันได้ ซึ่งจะช่วยลดการขยี้ตาและลดปัญหาใต้ตาดำได้อีกทางหนึ่ง


8. ฉีดเมโส

การฉีดเมโสเธอราพี (Mesotherapy) เป็นวิธีทางการแพทย์ที่ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาดำภูมิแพ้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป็นการฉีดสารสกัดที่มีประโยชน์ เช่น วิตามิน แร่ธาตุ กรดไฮยาลูโรนิก และสารต้านอนุมูลอิสระเข้าไปในชั้นผิวหนังบริเวณใต้ตาโดยตรง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ลดการอักเสบ และฟื้นฟูผิวที่เสียหายจากภูมิแพ้ ทำให้รอยคล้ำใต้ตาจางลงอย่างเห็นได้ชัด การรักษานี้ใช้เข็มขนาดเล็กมากและมีความเจ็บปวดน้อย ผลการรักษาจะเห็นได้หลังทำ 3-5 ครั้ง โดยแต่ละครั้งห่างกันประมาณ 2-4 สัปดาห์ ซึ่งควรทำกับแพทย์ที่มีความชำนาญ และประสบการณ์


9. เลเซอร์รักษารอยคล้ำใต้ตา

โดยเลเซอร์จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ลดการอักเสบ และลดเลือนรอยคล้ำใต้ตาได้ การรักษาด้วยเลเซอร์มีหลายชนิด เช่น เลเซอร์ Fractional CO2 ที่ช่วยปรับสภาพผิวใต้ตา หรือ IPL (Intense Pulsed Light) ที่ช่วยลดเส้นเลือดฝอยที่แตกและรอยคล้ำใต้ตา การรักษาใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที และอาจมีอาการบวมแดงเล็กน้อยหลังทำ แต่จะหายไปภายใน 1-2 วัน ควรทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง 3-5 ครั้ง จึงจะเห็นผลชัดเจน และควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกชนิดเลเซอร์ที่เหมาะกับปัญหาของเรา


10. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นวิธีที่ช่วยแก้ไขรอยคล้ำใต้ตาที่เกิดจากเบ้าตาลึก ซึ่งเป็นผลมาจากการสูญเสียไขมันใต้ตาเนื่องจากภูมิแพ้เรื้อรัง ฟิลเลอร์ที่ใช้มักเป็นกรดไฮยาลูโรนิกซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายอยู่แล้ว จึงปลอดภัยและมีโอกาสแพ้น้อย การฉีดฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มร่องลึกใต้ตา ลดเงาที่ทำให้เกิดรอยคล้ำ และทำให้ผิวใต้ตาดูเรียบเนียนขึ้น ผลการรักษาสามารถเห็นได้ทันทีหลังฉีด และอยู่ได้นาน 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และการตอบสนองของแต่ละบุคคล ควรทำการรักษานี้กับแพทย์ที่มีความชำนาญเพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น


สรุปบทความ

ใต้ตาดำจากภูมิแพ้แก้ไขได้หลายวิธี

ปัญหาใต้ตาดำจากภูมิแพ้สามารถแก้ไขได้หลายวิธี ทั้งการดูแลตัวเองที่บ้านและการรักษาทางการแพทย์ การเลือกวิธีที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาและความต้องการของแต่ละบุคคล สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าใต้ตาดำภูมิแพ้แก้ยังไงให้ได้ผล และต้องทำอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตาและกำลังมองหาคลินิกทำตาเพื่อแก้ปัญหานี้ สามารถปรึกษาจักษุแพทย์ผู้ชำนาญการของ Sky Clinic  ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการ ทำตาสองชั้น เปิดหัวตา แก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ซ่อนแผลใต้คิ้ว และกำจัดถุงไขมันใต้ตา เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาของคุณ

ที่มา : -