การตัดสินใจทำศัลยกรรมเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ หนึ่งในปัจจัยที่ไม่ควรมองข้ามคือภาวะสุขภาพโดยรวมของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีโรคประจำตัว การทราบว่ามีโรคที่ห้ามทำศัลยกรรมหรือโรคที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ จะช่วยให้เราเตรียมตัวและประเมินความเสี่ยงได้อย่างถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุดหลังการทำศัลยกรรม บทความนี้จะพาไปสำรวจกันว่ามีภาวะสุขภาพใดบ้างที่ควรใส่ใจ
โรคประจำตัว หมายถึง ภาวะความเจ็บป่วยหรือความผิดปกติทางร่างกายที่เกิดขึ้นกับบุคคลนั้น ๆ อย่างต่อเนื่องหรือเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง ซึ่งอาจส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวันและการตอบสนองของร่างกายต่อปัจจัยต่าง ๆ รวมถึงการทำศัลยกรรมด้วย การทราบและแจ้งประวัติโรคประจำตัวแก่แพทย์ก่อนทำหัตถการใด ๆ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสมที่สุด
จริง ๆ แล้วคำว่าโรคที่ห้ามทำศัลยกรรมอาจไม่ถูกต้องนักเสียทีเดียว ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นกลุ่มโรคที่ต้องควบคุมอาการให้อยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัยก่อนเข้ารับการผ่าตัด หรือต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษจากแพทย์อย่างใกล้ชิด เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางของโรคนั้น ๆ ควบคู่กับศัลยแพทย์จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับผู้ที่มีภาวะเบาหวานสิ่งสำคัญคือระดับน้ำตาลในเลือดต้องควบคุมได้ดี เนื่องจากระดับน้ำตาลที่สูงเกินไปจะส่งผลต่อกระบวนการหายของแผล ทำให้แผลหายช้า เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย และอาจมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย แพทย์อาจพิจารณาเลื่อนการผ่าตัดออกไปหากระดับน้ำตาลยังไม่คงที่ การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยให้การทำศัลยกรรมผ่านไปได้ด้วยดีและลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน
ภาวะความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญในการทำศัลยกรรม เนื่องจากอาจทำให้มีเลือดออกมากผิดปกติระหว่างผ่าตัด หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดได้ ก่อนการผ่าตัดแพทย์จำเป็นต้องประเมินและควบคุมระดับความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมเสียก่อน เพื่อความปลอดภัยสูงสุดตลอดกระบวนการศัลยกรรม การควบคุมความดันจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม
ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจจำเป็นต้องได้รับการประเมินอย่างละเอียดจากอายุรแพทย์โรคหัวใจก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรม เนื่องจากความเครียดจากการผ่าตัดและยาสลบอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของหัวใจได้ การทำศัลยกรรมบางประเภทอาจมีความเสี่ยงสูงกว่าปกติ แพทย์จะพิจารณาถึงความรุนแรงของโรค ชนิดของการผ่าตัด และความพร้อมของร่างกายโดยรวม เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการทำศัลยกรรมจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพหัวใจ
ภาวะไทรอยด์เป็นพิษหรือไทรอยด์ทำงานต่ำกว่าปกติที่ยังควบคุมอาการไม่ได้ อาจส่งผลต่อระบบเผาผลาญของร่างกายและการทำงานของหัวใจ รวมถึงอาจทำให้มีภาวะบวมรอบดวงตา ตาโปน กล้ามเนื้อรอบดวงตาอักเสบ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงระหว่างการผ่าตัดและการดมยาสลบได้ ดังนั้น ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาและควบคุมระดับฮอร์โมนไทรอยด์ให้อยู่ในภาวะปกติก่อนเข้ารับการศัลยกรรม เพื่อให้ร่างกายพร้อมที่สุดสำหรับการเปลี่ยนแปลง
โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด โรคถุงลมโป่งพอง หรือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง อาจเป็นอุปสรรคต่อการทำศัลยกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากต้องมีการดมยาสลบ ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนทางระบบหายใจได้ การทำงานของปอดต้องอยู่ในเกณฑ์ที่ดีพอสมควร แพทย์จะประเมินสมรรถภาพปอดอย่างละเอียด และอาจต้องมีการเตรียมตัวเป็นพิเศษเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
กลุ่มโรคเลือด เช่น โรคเลือดออกง่ายหยุดยาก ฮีโมฟีเลีย หรือภาวะเกล็ดเลือดต่ำ เป็นภาวะที่ต้องระมัดระวังอย่างยิ่งในการทำศัลยกรรมทุกประเภท เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงที่จะมีเลือดออกมากผิดปกติระหว่างและหลังการผ่าตัด การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเสี่ยงและวางแผนการรักษาร่วมกันกับศัลยแพทย์เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างปลอดภัยที่สุด การเลือกคลินิกทำตาที่มีมาตรฐานและทีมแพทย์มากประสบการณ์จึงเป็นเรื่องสำคัญ
โดยทั่วไปแล้วไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวว่าอายุเท่าไหร่จึงจะเหมาะสมที่สุดในการเริ่มทำศัลยกรรม แต่ส่วนใหญ่มักแนะนำให้ทำเมื่อร่างกายเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว ซึ่งสำหรับผู้หญิงอาจอยู่ที่ประมาณ 18-20 ปี และผู้ชายประมาณ 20-22 ปี โดยหากอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ก่อนการผ่าตัดต้องได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ปกครอง (เช่น พ่อ แม่ หรือผู้ปกครองตามกฎหมาย) หากอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป สามารถตัดสินใจทำศัลยกรรมได้เองโดยไม่ต้องมีผู้ปกครองเซ็นยินยอม อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญกว่าอายุคือวุฒิภาวะทางอารมณ์ ความเข้าใจในผลลัพธ์และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงความพร้อมของร่างกาย การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยประเมินความเหมาะสมเป็นรายบุคคลได้ดีที่สุด
การทำศัลยกรรมเพื่อเสริมความงามหรือแก้ไขความบกพร่องเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือความปลอดภัย สุขภาพโดยรวมที่แข็งแรงและการควบคุมโรคประจำตัวให้อยู่ในภาวะที่เหมาะสมเป็นปัจจัยหลักที่ต้องพิจารณา การปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดเกี่ยวกับโรคที่ห้ามทำศัลยกรรมหรือโรคที่ต้องระวังเป็นพิเศษ พร้อมทั้งแจ้งประวัติสุขภาพอย่างครบถ้วน จะช่วยให้การตัดสินใจทำศัลยกรรมเป็นไปอย่างรอบคอบและปลอดภัยที่สุด สำหรับผู้ที่สนใจทำศัลยกรรมตาสามารถปรึกษาจักษุแพทย์ผู้ชำนาญการของ Sky Clinic ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการทำตาสองชั้น เปิดหัวตา แก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ซ่อนแผลใต้คิ้ว และกำจัดถุงไขมันใต้ตา เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาของคุณ