คนหางตาตกหลายคนอาจจะมีความกังวลใจอย่างมาก เพราะแม้ว่าจะไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไร แต่การที่หางตาตกอาจส่งผลกับการมองเห็น และความมั่นใจของเราได้ ซึ่งบางคนหางตาตกมาแต่กำเนิด แต่บางคนเพิ่งหางตาตกเมื่ออายุมากขึ้น หรือเกิดจากอุบัติเหตุ ซึ่งหากเป็นแล้วปล่อยทิ้งไว้นานอาจทำให้ปัญหาลุกลามและส่งผลต่อคุณภาพชีวิตได้ วันนี้เราจึงอยากชวนทุกคนมาทำความเข้าใจสาเหตุและวิธีแก้ไขที่เหมาะสมกัน
หางตาตกเป็นความผิดปกติที่เกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งจากโครงสร้างตามธรรมชาติและการเสื่อมสภาพตามอายุ มาดูสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดปัญหานี้กัน
โครงสร้างดวงตาเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดหางตาตก โดยเฉพาะในกรณีที่มีหางตาชี้ลงตามธรรมชาติ หรือมีกระดูกเบ้าตาที่โค้งลงมากกว่าปกติที่บริเวณหางตา ทำให้เกิดความแตกต่างของระดับระหว่างหัวตาและหางตา ส่งผลให้ดวงตาดูไม่สมดุล บางคนอาจมีลักษณะนี้มาตั้งแต่เกิด ซึ่งมักเป็นผลมาจากพันธุกรรม
ลักษณะของกระดูกบริเวณโหนกคิ้วมีผลโดยตรงต่อรูปทรงของดวงตา ทั้งในแง่ของความหนา ขนาด และความโค้งของกระดูก บางคนมีกระดูกช่วงหัวคิ้วที่โค้งปลายลงมากกว่าปกติ ทำให้รูปทรงของดวงตาเป็นไปตามแนวกระดูก ส่งผลให้หางตาตก นอกจากนี้ กรณีที่กระดูกโหนกคิ้วมีขนาดหนา อาจทำให้เนื้อตาดูอูมโดยเฉพาะบริเวณหางตา เกิดการเบียดและลู่ลงของหางตาได้
ปัญหาที่เกิดจากหนังตามักพบในกรณีที่มีเนื้อหนังตามากเกินไป หรือมีการสะสมของไขมันที่ทำให้เปลือกตาหนากว่าปกติ โดยเฉพาะเมื่อมีเนื้อเปลือกตากองอยู่บริเวณหางตามากกว่าบริเวณหัวตา ทำให้เกิดความไม่สมดุล ส่งผลให้หางตาดูหย่อนคล้อยและตกลง การกระจายตัวของไขมันที่ไม่สม่ำเสมอนี้อาจเกิดได้ทั้งจากพันธุกรรมหรือการเสื่อมสภาพตามอายุ
หางตาตก คือ การที่ขอบเปลือกตาตกลงมากกว่าปกติ ซึ่งสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ การรู้สาเหตุที่แท้จริงจะช่วยให้การรักษาตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้
เมื่ออายุมากขึ้นกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อรอบดวงตาจะเสื่อมลงตามธรรมชาติ การยึดเกาะของกล้ามเนื้อตาจะอ่อนแอลง ทำให้หนังตาค่อย ๆ ตกลงมาบังตามากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ การลดลงของคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนังยังทำให้เกิดความหย่อนคล้อย ส่งผลให้หางตาตกลงอย่างชัดเจน
หางตาตกที่เกิดจากกรรมพันธุ์มักเกี่ยวข้องกับความผิดปกติของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อตาตั้งแต่แรกเกิด ทำให้ไม่สามารถลืมตาได้เต็มที่ ในบางรายที่มีอาการรุนแรง อาจพบปัญหาตาเข หรือสายตาขี้เกียจร่วมด้วย ซึ่งหากไม่ได้รับการแก้ไขตั้งแต่เด็ก อาจส่งผลต่อการพัฒนาการมองเห็นและความมั่นใจในระยะยาว
พฤติกรรมบางอย่างสามารถกระตุ้นให้เกิดหางตาตกได้ เช่น การขยี้ตาบ่อยในผู้ที่มีภูมิแพ้ทางตา การใส่คอนแทคเลนส์ไม่ถูกวิธีหรือทำความสะอาดไม่ดีจนเกิดการแพ้ การนอนดึกเป็นประจำ หรือการใช้สายตาเพ่งจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อตาอ่อนล้าและเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ
การบาดเจ็บบริเวณดวงตา โดยเฉพาะกรณีที่มีการฉีกขาดของหนังตาหรือเปลือกตา สามารถส่งผลให้เกิดหางตาตกได้ แม้จะได้รับการรักษาแผลแล้ว การหายของแผลและแผลเป็นอาจทำให้เกิดการดึงรั้งของเนื้อเยื่อ ส่งผลให้หางตาตกในภายหลัง
การแก้ไขปัญหาหางตาตกมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของปัญหา ถ้าเราเลือกวิธีที่เหมาะสมกับปัญหาได้ก็จะช่วยให้ผลลัพธ์การแก้ไขดีขึ้น ซึ่งวิธีการรักษานั้นมีดังนี้
การผ่าตัดยกหางตาแบบซ่อนแผลใต้คิ้วเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีชั้นตาอยู่แล้วและต้องการแก้ไขเฉพาะปัญหาหางตาตก โดยแพทย์จะทำการตัดเนื้อหนังและไขมันส่วนเกินออก พร้อมกับยกหางตาขึ้นและเย็บติดกับผิวหนังบริเวณท้องคิ้ว ข้อดีของวิธีนี้คือแผลจะถูกซ่อนอยู่ใต้คิ้ว ทำให้แทบมองไม่เห็นรอยแผล ผลลัพธ์ที่ได้จะดูเป็นธรรมชาติและอยู่ได้นาน
สำหรับผู้ที่มีปัญหาหางตาตกร่วมกับชั้นตาที่หลบใน การทำศัลยกรรมยกหางตาพร้อมทำตาสองชั้นจะช่วยแก้ไขปัญหาได้ครบถ้วนในคราวเดียว วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับแต่งดวงตาทั้งในส่วนของชั้นตาและหางตา แพทย์จะทำการตกแต่งหนังตาส่วนเกินและสร้างชั้นตาให้สวยงามพร้อมกับยกหางตาให้ได้ระดับที่เหมาะสม ทำให้ดวงตาดูสดใสและสมดุลมากขึ้น
คนหางตาตกไม่ต้องกังวลใจไปปัญหาหางตาตกสามารถแก้ไขได้ด้วยการรักษาที่เหมาะสม การเลือกวิธีการรักษาควรพิจารณาจากสาเหตุและความรุนแรงของปัญหา หรือสามารถปรึกษาจักษุแพทย์ผู้ชำนาญการของ Sky Clinic ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการทำตาสองชั้น เปิดหัวตา แก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ซ่อนแผลใต้คิ้ว จัดเรียงไขมันใต้ตา และกำจัดถุงใต้ตา เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาได้เลย