แสบตา กะพริบตาแล้วเจ็บเกิดจากสาเหตุอะไร แก้ไขอย่างไรได้บ้าง
icon  icon
สาเหตุกะพริบตาแล้วเจ็บ

9 สาเหตุที่ทำให้กะพริบตาแล้วเจ็บ แสบตา พร้อมวิธีแก้ไขให้อาการดีขึ้น

อาการกะพริบตาแล้วเจ็บรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก หลายครั้งอาการนี้มาพร้อมกับความรู้สึกแสบตาหรือระคายเคืองตาจนน่ารำคาญ หากเรากำลังเผชิญกับปัญหานี้ คงอยากทราบว่าเกิดจากสาเหตุใดและจะแก้ไขได้อย่างไร บทความนี้ได้รวบรวมสาเหตุที่พบบ่อย พร้อมแนวทางการดูแลตัวเองเบื้องต้นและเมื่อไหร่ที่ควรไปพบจักษุแพทย์ เพื่อให้ดวงตาของเรากลับมาสดใสและทำงานได้เป็นปกติอีกครั้ง


รวม 9 สาเหตุหลักที่ทำให้กะพริบตาแล้วเจ็บ แสบตา

อาการเจ็บเปลือกตาบนเมื่อกะพริบ หรือรู้สึกแสบตา เคืองตา เหมือนมีอะไรอยู่ในตานั้นเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ตั้งแต่เรื่องเล็กน้อยไปจนถึงสัญญาณของโรคตาที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน การทำความเข้าใจสาเหตุเบื้องต้นจะช่วยให้เรารับมือกับอาการได้อย่างถูกต้อง และสังเกตความผิดปกติที่อาจเป็นอันตรายต่อดวงตาในระยะยาวได้


1. สิ่งแปลกปลอมหรือเศษผงเข้าตา

เมื่อมีเศษผงฝุ่นละอองหรือแม้แต่ขนตาเข้าตา จะทำให้เกิดอาการระคายเคือง แสบตา และเจ็บแปลบทุกครั้งที่กะพริบตาได้ เพราะเปลือกตาจะเสียดสีกับสิ่งแปลกปลอมนั้นตลอดเวลา แม้จะเป็นเพียงเศษชิ้นเล็ก ๆ ก็สามารถสร้างรอยถลอกที่กระจกตาได้ หากไม่รีบนำออกหรือนำออกอย่างผิดวิธี อาจทำให้เกิดการติดเชื้อตามมาได้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดของอาการเคืองตาเหมือนอะไรเข้าตาแต่ไม่มี


2. ภาวะตาแห้ง น้ำตาน้อย

ภาวะตาแห้งเกิดจากการที่ดวงตาผลิตน้ำตาไม่เพียงพอ หรือน้ำตามีคุณภาพที่ด้อยลง ทำให้ระเหยเร็วเกินไปจนส่งผลให้ผิวตาขาดความชุ่มชื้น ทำให้เกิดอาการแสบตา รู้สึกฝืดเคืองตา และอาจเจ็บเมื่อกะพริบตาได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้สายตาเป็นเวลานานจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรืออยู่ในห้องแอร์ที่อากาศแห้ง ปัจจัยเหล่านี้ล้วนกระตุ้นให้เกิดภาวะตาแห้งและอาการเจ็บตาที่เกี่ยวข้องได้มากขึ้น


3. เยื่อบุตาอักเสบ หรือ ตาแดง

เยื่อบุตาอักเสบ หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ตาแดง" คือภาวะที่เยื่อบุตาขาวเกิดการอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ทำให้เส้นเลือดฝอยขยายตัวจนเห็นเป็นสีแดง นอกจากตาแดงแล้ว ยังมีอาการแสบตา คันตา มีขี้ตามากกว่าปกติ และเจ็บตาเมื่อกะพริบร่วมด้วยได้ อาการนี้สามารถติดต่อกันได้ง่ายผ่านการสัมผัส จึงควรแยกของใช้ส่วนตัวและหมั่นล้างมือให้สะอาดเพื่อป้องกันการแพร่กระจาย


4. อาการภูมิแพ้ขึ้นตา

สำหรับผู้ที่มีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้ เมื่อสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ หรือขนสัตว์ อาจกระตุ้นให้เกิดอาการภูมิแพ้ที่ดวงตาได้ โดยจะมีอาการคันตาอย่างรุนแรง ตาบวมแดง น้ำตาไหล และรู้สึกแสบตาหรือเจ็บระคายเคืองตาเมื่อกะพริบ การหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้และใช้ยาแก้แพ้ตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกรจะช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ให้ดีขึ้นได้


สนใจปรึกษาจักษุแพทย์ผู้ชำนาญ


5. เปลือกตาเกิดการอักเสบ

เปลือกตาอักเสบ (Blepharitis) คือ ภาวะที่ต่อมไขมันบริเวณโคนขนตาเกิดการอุดตันและอักเสบ ทำให้มีอาการระคายเคืองตา แสบตา ขอบตาแดง และรู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในตาตลอดเวลา บางครั้งอาจมีขี้ตาแห้งกรังเกาะตามแนวขนตา ทำให้ลืมตาลำบากในตอนเช้า และเจ็บเมื่อกะพริบตาเนื่องจากการเสียดสีของเปลือกตาที่บวมอักเสบนั่นเอง


6. ตากุ้งยิง

ตากุ้งยิงคือการอักเสบติดเชื้อแบคทีเรียที่ต่อมไขมันบริเวณเปลือกตา ทำให้เกิดเป็นตุ่มฝีหนองขึ้นมา อาจเป็นที่ขอบเปลือกตาด้านนอกหรือด้านในก็ได้ ส่งผลให้มีอาการปวด บวม แดง ร้อนบริเวณเปลือกตาอย่างชัดเจน และจะรู้สึกเจ็บทุกครั้งที่กะพริบตาหรือเมื่อลองใช้นิ้วกดเบา ๆ บริเวณตุ่มหนอง การพยายามบีบเค้นหนองออกเองอาจทำให้อาการอักเสบลุกลามและรุนแรงขึ้นได้


7. ความผิดปกติที่กระจกตา

กระจกตาถลอกหรือเป็นแผล (Corneal Abrasion) อาจเกิดจากอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น โดนเล็บข่วนหรือการใส่และถอดคอนแทคเลนส์ผิดวิธี ทำให้ผิวชั้นนอกของกระจกตาเสียหาย ส่งผลให้มีอาการปวดตา แสบตา แพ้แสง น้ำตาไหลมาก และเจ็บตาอย่างรุนแรงเมื่อกะพริบ หากเกิดการติดเชื้อที่แผล อาจลุกลามจนกลายเป็นแผลเป็นที่กระจกตาและส่งผลต่อการมองเห็นอย่างถาวรได้


8. ดวงตาได้รับการบาดเจ็บ

การบาดเจ็บที่ดวงตาไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุ การโดนกระแทก หรือสารเคมีเข้าตา ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดและแสบตาได้ทั้งสิ้น ความรุนแรงมีตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงขั้นสูญเสียการมองเห็นได้ การบาดเจ็บอาจสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างต่าง ๆ ของดวงตา ตั้งแต่เปลือกตาไปจนถึงลูกตาด้านใน จึงจำเป็นต้องได้รับการประเมินจากจักษุแพทย์โดยเร็วที่สุด


9. โรคต้อหิน

ต้อหินบางชนิด โดยเฉพาะต้อหินเฉียบพลัน เกิดจากความดันในลูกตาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้มีอาการปวดตาและศีรษะอย่างรุนแรง ตาแดง ตามัว มองเห็นแสงรุ้งรอบดวงไฟ และอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย อาการปวดและเจ็บตาเมื่อกะพริบอาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน ภาวะนี้ถือเป็นภาวะฉุกเฉินทางตาที่ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะหากปล่อยไว้นานอาจทำให้เส้นประสาทตาถูกทำลายจนตาบอดได้


วิธีดูแลตัวเองเมื่อกะพริบตาแล้วเจ็บ แสบตา

วิธีดูแลดวงตา

เมื่อเริ่มมีอาการเจ็บหรือแสบตาขณะกะพริบ การดูแลตัวเองเบื้องต้นอย่างถูกวิธีจะช่วยบรรเทาอาการและป้องกันไม่ให้รุนแรงขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม หากอาการไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง ควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง

  • พักสายตาและหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น งดการใช้สายตาเพ่งจอเป็นเวลานาน ๆ และหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีลมแรง แสงจ้า หรือฝุ่นควันเยอะ
  • ประคบเย็นหรือประคบอุ่น การประคบเย็นช่วยลดอาการบวมและอักเสบจากการบาดเจ็บหรือภูมิแพ้ ส่วนการประคบอุ่นช่วยลดการอุดตันของต่อมไขมันที่เปลือกตาในกรณีตากุ้งยิงหรือเปลือกตาอักเสบ
  • ใช้น้ำตาเทียม หากมีอาการตาแห้ง การใช้น้ำตาเทียมที่ไม่มีสารกันบูดจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและลดอาการระคายเคืองได้
  • ล้างมือให้สะอาดและไม่ขยี้ตา การขยี้ตาจะยิ่งทำให้อาการระคายเคืองรุนแรงขึ้น และอาจเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ ควรล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ
  • งดการใส่คอนแทคเลนส์ ควรงดใส่คอนแทคเลนส์ชั่วคราวจนกว่าอาการจะหายดี เพื่อลดการเสียดสีและการระคายเคืองที่กระจกตา


เจ็บตาแบบไหนที่ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

แม้ว่าอาการเจ็บตาเมื่อกะพริบส่วนใหญ่จะไม่อันตราย แต่มีสัญญาณเตือนบางอย่างที่หากเกิดขึ้น ควรรีบไปพบจักษุแพทย์โดยด่วน ได้แก่ อาการปวดตาอย่างรุนแรงจนทนไม่ไหว การมองเห็นลดลงหรือตามัวลงอย่างฉับพลัน มองเห็นภาพซ้อน เห็นแสงวาบ หรือเห็นจุดดำลอยไปมา มีอาการตาแดงก่ำร่วมกับอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน หรือเมื่อสงสัยว่ามีสารเคมีเข้าตาหรือดวงตาโดนอุบัติเหตุรุนแรง


การรักษาอาการกะพริบตาแล้วเจ็บ แสบตา

การรักษาจะแตกต่างกันไปตามสาเหตุที่จักษุแพทย์วินิจฉัย เช่น หากเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย แพทย์อาจสั่งยาหยอดตาหรือยาป้ายตาฆ่าเชื้อ หากเป็นภูมิแพ้ อาจได้รับยาแก้แพ้ชนิดหยอดหรือรับประทาน สำหรับภาวะตาแห้งรุนแรงอาจต้องใช้น้ำตาเทียมชนิดพิเศษหรือทำหัตถการเพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้น ในกรณีตากุ้งยิงหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าตา แพทย์จะทำการรักษาที่เหมาะสม เช่น การสะกิดหนองออกหรือคีบสิ่งแปลกปลอมออกให้


สรุปบทความ

กะพริบตาแล้วเจ็บ

อาการกะพริบตาแล้วเจ็บพร้อมกับอาการแสบตาหรือเคืองตาเหมือนอะไรเข้าตาแต่ไม่มีนั้นมีสาเหตุได้หลากหลายตั้งแต่เรื่องเล็กน้อยอย่างฝุ่นเข้าตา ตาแห้ง ไปจนถึงโรคร้ายแรงเช่นต้อหินเฉียบพลัน หากอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบพบจักษุแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง แต่สำหรับผู้ที่กำลังมองหาคลินิกทำตาเพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเปลือกตาด้านต่าง ๆ สามารถปรึกษาจักษุแพทย์ผู้ชำนาญการของ Sky Clinic ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการแก้ตา การทำตาสองชั้นเพื่อให้ดวงตาดู ตาโต สดใส แก้ไขตาสามชั้น และปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เพื่อรับการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละบุคคล

ที่มา : -