ไขมันใต้ตาเป็นปัญหาที่ทำให้หลายคนดูแก่กว่าวัยและขาดความมั่นใจ บางคนมีมาตั้งแต่อายุยังน้อย บางคนเพิ่งเผชิญปัญหานี้เมื่ออายุมากขึ้น ซึ่งนอกจากความไม่สวยงามแล้ว ไขมันใต้ตายังอาจส่งผลต่อการมองเห็น และทำให้ตาดูง่วงนอน ไม่รู้สึกสดชื่น ซึ่งไขมันใต้ตาคืออะไร และมีวิธีรักษาอย่างไรได้บ้าง เราไปทำความรู้จักให้มากขึ้นกัน
ไขมันใต้ตาเป็นกลุ่มเนื้อเยื่อไขมันที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนังบริเวณเปลือกตาล่าง โดยปกติไขมันเหล่านี้จะถูกยึดไว้ด้วยผนังกั้นที่แข็งแรง แต่เมื่อผนังกั้นอ่อนแอลงหรือมีไขมันมากเกินไป จะทำให้เกิดการยื่นหรือหย่อนคล้อยของไขมันจนมองเห็นเป็นถุงนูนใต้ดวงตา บางคนอาจมีลักษณะเป็นถุงชัดเจน บางคนอาจมีลักษณะบวมเป็นวง และบางคนอาจมีร่องลึกใต้ถุงไขมัน ทำให้ใบหน้าดูอ่อนล้าและแก่กว่าวัย
การรู้สาเหตุที่แท้จริงจะช่วยให้เราเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมได้ โดยไขมันใต้ตาสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ละคนก็อาจจะมีสาเหตุที่แตกต่างกันไป ดังนี้
ปัจจัยทางพันธุกรรมเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดไขมันใต้ตา โดยเกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบต่อมไร้ท่อในร่างกาย ซึ่งควบคุมการสะสมและการกระจายตัวของไขมัน บางคนมีแนวโน้มที่จะสะสมไขมันบริเวณใต้ตามากกว่าส่วนอื่น ๆ ทำให้เกิดการรวมตัวของไขมันจนกลายเป็นถุงนูนชัดเจน นอกจากนี้ ยังอาจมีความผิดปกติของผนังกั้นเนื้อเยื่อที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ทำให้ไขมันเคลื่อนตัวมาด้านหน้าได้ง่าย คนที่มีพ่อแม่หรือญาติพี่น้องที่มีปัญหาไขมันใต้ตามักมีโอกาสเกิดปัญหานี้ได้สูง
พฤติกรรมหลายอย่างในชีวิตประจำวันส่งผลต่อการเกิดไขมันใต้ตา การพักผ่อนไม่เพียงพอหรือนอนดึกเป็นประจำทำให้เกิดการคั่งของของเสียใต้ดวงตา การใช้สายตาจ้องหน้าจอเป็นเวลานานทำให้กล้ามเนื้อตาอ่อนล้า การขยี้ตาแรง ๆ ทำให้เนื้อเยื่อบอบช้ำ ความเครียดส่งผลต่อการหมุนเวียนของเลือด การรับประทานอาหารรสจัดโดยเฉพาะรสเค็มและหวานทำให้เกิดการบวมน้ำ รวมถึงการดื่มแอลกอฮอล์ที่ทำให้ร่างกายขาดน้ำและเกิดการบวม
เมื่ออายุมากขึ้นโครงสร้างผิวหนังและเนื้อเยื่อใต้ตาจะเสื่อมลงตามธรรมชาติ ผนังกั้นที่ยึดไขมันไว้จะอ่อนแอลง ทำให้ไขมันเคลื่อนตัวมาด้านหน้าได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ คอลลาเจนและอีลาสตินซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวกระชับก็ลดลง ทำให้ผิวหย่อนคล้อย เกิดเป็นถุงใต้ตาที่ชัดเจนขึ้น บางคนอาจพบว่ามีร่องลึกใต้ถุงไขมัน ยิ่งทำให้ดูแก่กว่าวัย
การรักษาปัญหาไขมันใต้ตาต้องเลือกให้เหมาะสมกับสาเหตุและความรุนแรงของปัญหา วันนี้เราขอยกตัวอย่างวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมกัน ดังนี้
การผ่าตัดถุงใต้ตาเป็นวิธีที่ได้ผลดีที่สุดสำหรับการแก้ไขปัญหาไขมันใต้ตา การผ่าตัดถุงใต้ตา มีด้วยกัน 2 เทคนิค เทคนิคแรกคือ กำจัดถุงไขมันใต้ตาแบบไร้รอยแผล (แผลใน) คือการดูดเอาไขมันใต้ตาออก โดยการเปิดแผลขนาดเล็กที่เยื่อบุด้านในตาล่าง ไม่มีแผลข้างนอกและไม่ต้องตัดไหม เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาถุงไขมันใต้ตา โดยที่ไม่ได้มีปัญหาหนังใต้ตาเยอะหรือร่องใต้ตาลึกร่วมด้วย อีกเทคนิคคือ กำจัดถุงไขมันใต้ตาแผลนอก
คือการกำจัดถุงไขมันใต้ตา โดยที่แผลจะซ่อนอยู่ที่ใต้โคนขนตาล่าง และมีการตัดหนังส่วนเกินออกร่วมด้วย ซึ่งจะต้องตัดไหมหลังผ่าตัด 7 วัน เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาถุงไขมันใต้ตาเยอะ มีหนังส่วนเกิน กังวลเรื่องความหย่อนคล้อยของผิวใต้ตา หลังทำจะช่วยให้ใต้ตามีความกระชับมากขึ้น
การผ่าตัด 2 เทคนิคนี้จะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ผลลัพธ์จะเห็นชัดเจนหลังการบวมยุบตัวลง
โดยแพทย์จะทำการย้ายไขมันจากถุงใต้ตาไปเติมในบริเวณขอบตาล่าง ช่วยให้ผิวบริเวณใต้ตาดูอิ่มขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าดูสดใสและช่วยแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาได้ในคราวเดียวกัน โดยการเปิดแผลจากด้านในตาเช่นเดียวกับวิธีอื่น จึงไม่ทิ้งรอยแผลผ่าตัดให้เห็น
ไขมันใต้ตาเป็นปัญหาที่เกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งพันธุกรรม พฤติกรรม และอายุที่มากขึ้น การรักษาที่ได้ผลดีต้องเริ่มจากการวินิจฉัยสาเหตุที่แท้จริง สามารถปรึกษาจักษุแพทย์ผู้ชำนาญการของ Sky Clinic ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการทำตาสองชั้น เปิดหัวตา แก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง จัดเรียงไขมันเปลือกตา ซ่อนแผลใต้คิ้ว และ กำจัดถุงใต้ตา เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละบุคคลได้อย่างตรงจุด