ปัญหาเหงื่อเข้าตาเป็นสิ่งที่หลายคนต้องเจอกันบ่อย ๆ โดยเฉพาะเมื่อออกกำลังกายหรืออยู่ในสภาพอากาศร้อน ความรู้สึกแสบตาเมื่อเหงื่อไหลลงมาเป็นความรู้สึกที่ไม่สบายและรบกวนการใช้ชีวิต แล้วเหงื่อเข้าตาเป็นอันตรายหรือไม่? เหตุใดจึงเกิดขึ้นบ่อยกับบางคน? และจะป้องกันหรือแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร? มาค้นหาคำตอบไปพร้อมกัน
เหงื่อเข้าตาเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในคนที่ชอบออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง แต่น้อยคนจะทราบว่าอาการนี้อาจเกิดจากโครงสร้างรอบดวงตาที่มีความผิดปกติ ซึ่งทำให้เหงื่อไหลเข้าตาได้ง่าย โดยสาเหตุหลักมีดังนี้
เมื่ออายุมากขึ้นผิวหนังรอบดวงตาจะสูญเสียความยืดหยุ่น ทำให้หนังตาหย่อนคล้อยและเกิดรอยพับทับซ้อนกัน เมื่อเหงื่อไหลลงมาจากหน้าผาก จะถูกกักอยู่ตามรอยพับเหล่านี้และไหลเข้าสู่ดวงตาในที่สุด หนังตาตกยังทำให้การระบายเหงื่อออกจากบริเวณรอบดวงตาเป็นไปได้ยากขึ้น เพราะน้ำจะมีแนวโน้มไหลลงตามร่องและซอกมุมที่เกิดจากผิวหนังที่หย่อนคล้อย มากกว่าจะไหลออกไปทางกรอบหน้า
กล้ามเนื้อที่ควบคุมการเปิดปิดของเปลือกตา (กล้ามเนื้อ Levator) ไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เปลือกตาตกลงมาปิดบางส่วนของลูกตา เมื่อเหงื่อไหลลงมาจากหน้าผาก แทนที่จะไหลลงข้างหน้า กลับถูกกักไว้บริเวณรอยพับของเปลือกตาและไหลเข้าตา นอกจากนี้ กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงยังทำให้การกะพริบตาเพื่อป้องกันสิ่งแปลกปลอมเป็นไปได้ช้าและไม่มีประสิทธิภาพ จึงไม่สามารถป้องกันเหงื่อที่ไหลเข้าตาได้ทัน
เมื่อมุมตาด้านนอกต่ำลงกว่าปกติ ส่งผลให้การระบายของเหลวจากดวงตาไปยังท่อน้ำตาเป็นไปได้ไม่ดีนัก เมื่อเหงื่อไหลลงมาจากด้านข้างของใบหน้า แทนที่จะไหลผ่านไปตามหางตา กลับไหลลงสู่ดวงตา นอกจากนี้ หางตาตกยังทำให้เกิดร่องหรือรอยหย่อนคล้อยบริเวณหัวตา ซึ่งเป็นเหมือนทางน้ำที่นำพาเหงื่อเข้าสู่ดวงตาได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีเหงื่อออกมากในขณะออกกำลังกายหรืออยู่ในที่ที่มีอากาศร้อน
เนื่องจากโครงสร้างของเบ้าตาที่ลึกมักมีขอบเบ้าตาที่ชัดเจน ทำให้เกิดเป็นร่องสำหรับการไหลของเหงื่อจากหน้าผากลงสู่ดวงตา เบ้าตาลึกมักเกิดจากการสูญเสียไขมันใต้ผิวหนังบริเวณรอบดวงตา ทำให้เกิดเป็นร่องหรือแอ่งที่เป็นทางผ่านของเหงื่อเข้าสู่ดวงตาได้ง่าย นอกจากนี้ คนที่มีเบ้าตาลึกมักมีผิวบริเวณใต้คิ้วและเปลือกตาที่อยู่ต่ำกว่าปกติ ทำให้เหงื่อที่ไหลลงมาจากหน้าผากไหลไปในทิศทางเข้าสู่ดวงตาได้โดยตรง
เหงื่อเข้าตาอาจไม่ได้อันตรายร้ายแรงในทันที แต่ก็ไม่ควรมองข้าม เมื่อเหงื่อซึ่งประกอบด้วยน้ำ เกลือแร่ และสารอื่น ๆ ไหลเข้าตา จะทำให้เกิดอาการแสบตาและระคายเคือง เนื่องจากความเป็นกรดด่างของเหงื่อแตกต่างจากน้ำตา หากเกิดขึ้นบ่อยครั้งอาจทำให้เยื่อบุตาอักเสบ ตาแดง และรู้สึกไม่สบายตา ที่สำคัญคือความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่ดวงตา เพราะเหงื่ออาจนำเชื้อโรคจากผิวหนังเข้าสู่ดวงตา โดยเฉพาะถ้ามีการขยี้ตาด้วยมือที่ไม่สะอาด หรือเช็ดตาด้วยผ้าที่มีเชื้อโรค นอกจากนี้ การที่เหงื่อเข้าตาบ่อย ๆ ยังอาจบ่งชี้ถึงปัญหาโครงสร้างของเปลือกตาที่ควรได้รับการตรวจรักษาจากคลินิกทำตา
เมื่อเหงื่อเข้าตาจนรู้สึกแสบหรือระคายเคือง เราควรรีบจัดการแก้ไขเพื่อบรรเทาอาการและป้องกันไม่ให้เกิดการอักเสบหรือติดเชื้อ การดูแลตนเองอย่างถูกวิธีจะช่วยบรรเทาอาการไม่สบายและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนี้
ล้างตาด้วยน้ำสะอาดทันที โดยกะพริบตาในน้ำหลายๆ ครั้งเพื่อให้น้ำช่วยชะล้างเหงื่อออกจากดวงตา
ใช้น้ำตาเทียมหยอดเพื่อช่วยชะล้างและเจือจางเหงื่อที่เข้าตา ทำให้ลดการระคายเคือง
ห้ามขยี้ตาโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดการระคายเคืองมากขึ้นและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
ใช้ผ้าสะอาดซับเบา ๆ ที่มุมตา ไม่ควรเช็ดโดยตรงที่ลูกตา
พักสายตาและหลีกเลี่ยงการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงจ้า ควันหรือฝุ่น
หากมีอาการแสบตาหรือระคายเคืองมาก ควรหยุดทำกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกและพักในที่ร่ม
ถ้ามีอาการรุนแรงหรือไม่ดีขึ้นภายใน 1-2 ชั่วโมง ควรปรึกษาจักษุแพทย์
การป้องกันไม่ให้เหงื่อเข้าตาเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำหรือต้องทำงานในสภาพอากาศร้อน การป้องกันที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดการระคายเคืองหรือการติดเชื้อที่ดวงตา และทำให้การทำกิจกรรมต่าง ๆ เป็นไปได้อย่างราบรื่น วิธีป้องกันมีดังนี้
สวมผ้าคาดศีรษะหรือผ้าพันรอบศีรษะเพื่อซับเหงื่อไม่ให้ไหลลงมาที่ใบหน้า
ใช้แว่นตากันแดดหรือแว่นตาสำหรับกีฬาที่มีขอบแว่นชิดกับใบหน้า ช่วยป้องกันเหงื่อไม่ให้เข้าตา
ทาครีมกันแดดแบบกันน้ำเหงื่อบริเวณหน้าผากและโหนกแก้ม เพื่อให้เหงื่อไหลออกทางด้านข้างแทนที่จะไหลลงตา
พกผ้าเช็ดหน้าหรือผ้าซับเหงื่อติดตัวเสมอ เพื่อซับเหงื่อก่อนที่จะไหลเข้าตา
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมหนักในช่วงที่มีอากาศร้อนจัด
ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อควบคุมอุณหภูมิร่างกายและลดการเกิดเหงื่อมากเกินไป
ใช้สเปรย์น้ำแร่ฉีดพ่นใบหน้าเพื่อลดอุณหภูมิผิวและลดการเกิดเหงื่อ
ปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อประเมินว่ามีปัญหาโครงสร้างของเปลือกตาหรือไม่ และพิจารณาการรักษา เช่น การทำตาสองชั้น
เหงื่อเข้าตาเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย เกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งหนังตาตกตามวัย กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง หางตาตก และเบ้าตาลึก แม้จะไม่ใช่อันตรายร้ายแรง แต่อาจนำไปสู่การระคายเคืองและติดเชื้อที่ตาได้ การดูแลตัวเองเมื่อเหงื่อเข้าตาและการป้องกันไม่ให้เหงื่อเข้าตาจึงเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับผู้ที่สนใจแก้ปัญหาเกี่ยวกับเปลือกตาสามารถปรึกษาจักษุแพทย์ผู้ชำนาญการของ Sky Clinic ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการทำตาสองชั้น เปิดหัวตา แก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ซ่อนแผลใต้คิ้ว และกำจัดถุงไขมันใต้ตา เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาของคุณ