ปัญหาใต้ตาเหี่ยวเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยเมื่อวัยเพิ่มขึ้น ทำให้ใบหน้าดูอ่อนล้าและแก่กว่าวัย เนื่องจากผิวบริเวณรอบดวงตาบอบบางกว่าส่วนอื่นของใบหน้า จึงแสดงอาการเสื่อมสภาพได้เร็วกว่า ทั้งหนังตาย่นหรือใต้ตาหย่อนคล้อยล้วนส่งผลต่อความมั่นใจ แต่เราสามารถฟื้นฟูผิวบริเวณนี้ให้กลับมากระชับได้ด้วย 10 วิธีที่เรานำมาแนะนำกันวันนี้
ใต้ตาเหี่ยว หนังตาย่น และอาการตาปรือ ล้วนเกิดจากการเสื่อมสภาพของคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนังทั้งสิ้น นอกจากนี้ ยังเกิดจากการสูญเสียไขมันใต้ตาตามวัยที่เพิ่มขึ้น และพฤติกรรมในชีวิตประจำวันก็เป็นสาเหตุสำคัญ เช่น การขยี้ตาบ่อย ๆ การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียดสะสม การสูบบุหรี่ หรือการได้รับแสงแดดมากเกินไปโดยไม่ป้องกัน ภาวะตาแห้งเรื้อรังและตาแดงบ่อยครั้งยังทำให้เกิดการอักเสบสะสม ส่งผลให้ผิวใต้ตาเสื่อมเร็วขึ้น
การแก้ไขปัญหาใต้ตาเหี่ยวและหนังตาย่นมีหลากหลายวิธี ตั้งแต่การดูแลประจำวันด้วยตัวเองไปจนถึงการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่ละวิธีมีประสิทธิภาพแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหา มาดูวิธีลดริ้วรอยใต้ตาทั้ง 10 วิธีที่ได้ผลจริงกัน
การใช้เซรั่มบำรุงใต้ตาคุณภาพดีเป็นวิธีพื้นฐานที่ได้ผลดี โดยควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี วิตามินอี เปปไทด์ และไฮยาลูรอนิก แอซิด ซึ่งช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวรอบดวงตา การทาเซรั่มควรใช้นิ้วนางแตะเบา ๆ โดยเริ่มจากหัวตาไปหางตา ทาเช้า-เย็นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยลดเลือนริ้วรอยและป้องกันการเกิดหนังตาย่นใหม่
การดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8 แก้วมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพผิวรอบดวงตา น้ำช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนังจากภายใน ทำให้ผิวบริเวณรอบดวงตาที่บอบบางมีความยืดหยุ่นและชุ่มชื้น ช่วยลดการเกิดริ้วรอยเล็ก ๆ ที่มักเกิดจากผิวแห้งได้ และยังช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายที่เป็นสาเหตุของผิวหมองคล้ำได้อีกด้วย
การใช้มาส์กเฉพาะสำหรับใต้ตาจะช่วยฟื้นฟูผิวใต้ตาได้อย่างรวดเร็ว แผ่นมาส์กใต้ตาที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน คาเฟอีน หรือสารสกัดจากธรรมชาติอย่างแตงกวา ช่วยลดการบวมและฟื้นฟูผิวที่อ่อนล้า ควรใช้มาส์กใต้ตา 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยวางแผ่นมาส์กบริเวณใต้ตาที่สะอาด ทิ้งไว้ 15-20 นาที ไม่ควรปล่อยให้แผ่นมาส์กแห้งสนิทบนผิว เพราะจะดึงความชุ่มชื้นกลับออกมาทำให้ใต้ตาหย่อนคล้อยมากขึ้น
การนวดรอบดวงตาเบา ๆ วันละ 3-5 นาทีช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง ลดการบวมน้ำและลดใต้ตาเหี่ยว สามารถใช้นิ้วนางเคาะเบา ๆ รอบดวงตา หรือใช้ลูกกลิ้งหยกหรือโรสควอตซ์ที่แช่เย็นนวดเพื่อช่วยกระชับผิว การนวดยังช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อรอบดวงตาที่ตึงเครียดจากการใช้สายตามากเกินไป แต่ควรระวังไม่นวดแรงจนเกินไปจนอาจเกิดปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้
การล้างเครื่องสำอางที่ถูกต้องช่วยป้องกันการระคายเคืองและลดการเสื่อมสภาพของผิวรอบดวงตา ควรใช้น้ำยาล้างเครื่องสำอางที่อ่อนโยนโดยเฉพาะ หลีกเลี่ยงการขยี้หรือถูแรง ๆ เพราะจะทำให้เกิดหนังตาย่นได้ง่าย วิธีที่ถูกต้องคือชุบสำลีให้ชุ่มด้วยน้ำยาล้างเครื่องสำอาง วางทิ้งไว้บนเปลือกตา 15-20 วินาที แล้วเช็ดออกเบา ๆ ทำซ้ำจนสะอาด วิธีนี้ช่วยลดการดึงรั้งผิวบริเวณดวงตาที่เป็นสาเหตุของใต้ตาหย่อนคล้อย
การรักษาด้วย PRP (Platelet-Rich Plasma) เป็นการนำเลือดของตัวเองมาปั่นแยกเอาพลาสม่าที่มีเกล็ดเลือดเข้มข้น แล้วฉีดกลับเข้าไปใต้ผิวรอบดวงตา เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูผิวใต้ตาอย่างเป็นธรรมชาติ การรักษาด้วย PRP ช่วยลดริ้วรอย กระชับผิวหนังตาย่น และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ โดยไม่มีสารเคมีหรือวัสดุแปลกปลอม ทำให้การฟื้นตัวเร็วและเกิดผลข้างเคียงน้อยกว่าการรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ
การรักษาด้วยเลเซอร์ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่และปรับโครงสร้างผิวรอบดวงตา มีหลายประเภท เช่น Fractional CO2 Laser หรือ Erbium Laser ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยลึกและกระชับผิวใต้ตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เลเซอร์ยังช่วยปรับสีผิวที่หมองคล้ำใต้ตาให้สว่างขึ้น ลดความหย่อนคล้อยของเปลือกตา แต่อาจต้องทำหลายครั้งและมีระยะพักฟื้น 3-7 วัน ควรปรึกษาแพทย์ที่คลินิกทำตาเพื่อเลือกชนิดเลเซอร์ที่เหมาะสม
การฉีดโบท็อกซ์รอบดวงตาช่วยลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่นได้ดี โดยเฉพาะรอยตีนกาบริเวณหางตา โบท็อกซ์ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้นชั่วคราว 3-6 เดือน และยังช่วยยกกระชับหนังตาย่นได้เล็กน้อย การฉีดโบท็อกซ์เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอยเล็กน้อยถึงปานกลาง แต่ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตาหรือใต้ตาหย่อนคล้อยมาก ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อป้องกันผลข้างเคียง
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นวิธีเติมเต็มร่องลึกใต้ตาและแก้ไขใต้ตาเหี่ยวได้อย่างรวดเร็ว ฟิลเลอร์ที่นิยมใช้มักเป็นกรดไฮยาลูรอนิกที่มีความเข้ากันได้ดีกับร่างกาย ช่วยเพิ่มปริมาตรให้กับบริเวณที่สูญเสียไขมันใต้ตา ทำให้ผิวดูเต่งตึง ลดเลือนร่องลึกและความหย่อนคล้อย ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และการเผาผลาญของแต่ละบุคคล การฉีดฟิลเลอร์ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะบริเวณใต้ตามีเส้นเลือดและเนื้อเยื่อบอบบาง
การผ่าตัดเป็นทางเลือกที่ให้ผลลัพธ์ถาวรสำหรับผู้ที่มีปัญหาใต้ตาเหี่ยวหรือหนังตาย่นรุนแรง การกำจัดถุงใต้ตา (Lower lid blepharoplasty) ช่วยกำจัดผิวหนังส่วนเกิน จัดการกับไขมันที่ยื่นออกมา และยกกระชับกล้ามเนื้อใต้ตาที่หย่อนคล้อย การกำจัดถุงใต้ตาก็สามารถช่วยแก้ปัญหาผิวใต้ตาที่หย่อนคล้อยได้ การผ่าตัดใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1-2 สัปดาห์ และให้ผลลัพธ์ที่คงทนยาวนานกว่าวิธีอื่น ๆ การผ่าตัดมีหลายเทคนิคขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของปัญหา โดยแพทย์จะประเมินและเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล
การแก้ไขปัญหาใต้ตาเหี่ยว หนังตาย่น และใต้ตาหย่อนคล้อย มีหลากหลายวิธีตั้งแต่การดูแลตัวเองในชีวิตประจำวันไปจนถึงการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ วิธีที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาและความต้องการของแต่ละบุคคล การดูแลผิวรอบดวงตาเป็นประจำจะช่วยชะลอและป้องกันการเกิดปัญหาเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับผู้ที่สนใจแก้ปัญหาใต้ตาด้วยการผ่าตัดสามารถปรึกษาจักษุแพทย์ผู้ชำนาญการของ Sky Clinic ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการทำตาสองชั้น เปิดหัวตา แก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ซ่อนแผลใต้คิ้ว และกำจัดถุงไขมันใต้ตา เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาของคุณ