ตาแห้งเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง และมีวิธีป้องกันอย่างไร
icon  icon
ตาแห้งเกิดจากสาเหตุอะไร

ตาแห้งเกิดจากสาเหตุอะไร พร้อมเคล็ดลับดูแลดวงตาให้ชุ่มชื้น

ตาแห้งเป็นปัญหาสุขภาพตาที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน โดยตาแห้งอาการมักเริ่มจากความรู้สึกแสบตา ระคายเคือง มองเห็นไม่ชัด หรือรู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมในตา ซึ่งสาเหตุของอาการตาแห้งมีได้หลายสาเหตุ แต่สามารถบรรเทาได้ด้วยการใช้น้ำตาเทียมหยอดตาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ร่วมกับการใช้วิธีอื่น ๆ ซึ่งจะมีวิธีอะไรบ้างไปดูกัน

ตาแห้งเกิดจากอะไร

ตาแห้งเกิดจากความผิดปกติของน้ำตาที่หล่อเลี้ยงดวงตา ซึ่งอาจมีปริมาณน้ำตาไม่เพียงพอ หรือน้ำตามีคุณภาพไม่ดีพอที่จะหล่อลื่นดวงตา โดยในภาวะปกติ น้ำตาจะประกอบด้วยน้ำ น้ำมัน และโปรตีนที่ช่วยปกป้องและหล่อลื่นดวงตา แต่เมื่อองค์ประกอบเหล่านี้ไม่สมดุล จะทำให้เกิดอาการตาแห้งตามมา นอกจากนี้ ตาแห้งยังอาจเกิดจากการที่น้ำตาระเหยเร็วเกินไป หรือการที่ต่อมผลิตน้ำตาทำงานผิดปกติได้อีกด้วย

ตาแห้งอาการเป็นอย่างไร

อาการตาแห้งสามารถแสดงออกได้หลายรูปแบบ โดยผู้ที่มีอาการตาแห้งมักจะรู้สึกแสบตา คัน ระคายเคือง หรือรู้สึกเหมือนมีเศษผงในตา บางรายอาจมีอาการตาแดง น้ำตาไหล ซึ่งเป็นการตอบสนองของร่างกายที่พยายามผลิตน้ำตามาชดเชย นอกจากนี้ อาการตาแห้งยังอาจรวมถึงการมองเห็นไม่ชัด โดยเฉพาะในช่วงเย็นหรือหลังจากใช้สายตาเป็นเวลานาน บางคนอาจรู้สึกเจ็บเวลากะพริบตา หรือลืมตาลำบากในตอนเช้า ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะรุนแรงขึ้นเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่แห้ง เช่น ห้องปรับอากาศ หรือเมื่อต้องจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน

5 สาเหตุของการเกิดตาแห้ง

อาการตาแห้งสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งแต่ละสาเหตุอาจส่งผลต่อการผลิตน้ำตาหรือคุณภาพของน้ำตาแตกต่างกันไป ดังนี้

1. เกิดจากฮอร์โมนต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลง

การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการตาแห้ง โดยเฉพาะในผู้หญิงวัยทอง เนื่องจากระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลงส่งผลต่อการผลิตน้ำตาและความชุ่มชื้นของเยื่อบุตา นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในระหว่างตั้งครรภ์ การใช้ยาคุมกำเนิด หรือการรักษาด้วยฮอร์โมนทดแทน ก็อาจส่งผลให้เกิดอาการตาแห้งได้เช่นกัน บางคนอาจพบว่าอาการตาแห้งเปลี่ยนแปลงไปตามรอบเดือน ซึ่งเป็นผลมาจากการขึ้นลงของฮอร์โมนในร่างกาย

2. การใช้ยาบางประเภทที่ส่งผลให้ตาแห้ง

การใช้ยาบางชนิดอาจเป็นสาเหตุของอาการตาแห้ง โดยยาที่มักส่งผลต่อการผลิตน้ำตาและความชุ่มชื้นของดวงตา ได้แก่ ยาแก้แพ้ ยาลดน้ำมูก ยารักษาสิว ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาลดความดันโลหิต และยาขับปัสสาวะ เนื่องจากยาเหล่านี้อาจมีผลข้างเคียงที่ทำให้เกิดอาการปากแห้ง ตาแห้ง หรือลดการผลิตน้ำตา นอกจากนี้ การใช้ยาหลายชนิดร่วมกัน โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ อาจยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอาการตาแห้งได้มากขึ้น

3. ต่อมไขมันที่เปลือกตาทำงานผิดปกติ

ต่อมไขมันที่เปลือกตาทำหน้าที่ผลิตน้ำมันมาเคลือบผิวน้ำตา เพื่อช่วยลดการระเหยของน้ำตาและรักษาความชุ่มชื้นให้กับดวงตา เมื่อต่อมไขมันเหล่านี้ทำงานผิดปกติ จะส่งผลให้เกิดอาการตาแห้งได้ โดยความผิดปกตินี้อาจเกิดจากการอักเสบของขอบเปลือกตา การอุดตันของต่อมไขมัน หรือการเปลี่ยนแปลงของคุณภาพน้ำมันที่ผลิตออกมา ซึ่งพบได้บ่อยในผู้ที่มีปัญหาผิวหนังแพ้ง่าย หรือผู้ที่มีอาการต่อมไขมันอุดตันเรื้อรัง

4. มีความผิดปกติของเปลือกตา

ความผิดปกติของเปลือกตาเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการตาแห้ง โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาตาสองชั้นหลบในมาก ๆ ทำให้การกะพริบตาไม่ดีเท่าที่ควร จนน้ำตาไม่สามารถกระจายตัวปกคลุมกระจกตาได้ทั่วถึง นอกจากนี้ ผู้ที่มีเปลือกตาหย่อนคล้อย หรือเปลือกตาปิดไม่สนิท ก็มักจะมีปัญหาน้ำตาระเหยเร็วเกินไป ทำให้เกิดอาการตาแห้งได้ง่าย โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนหรือขณะหลับ

5. การใช้สายตามากเกินไป

การใช้สายตาจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ตเป็นเวลานาน เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการตาแห้งและตาเหลืองตามมาได้ เนื่องจากเมื่อเราจดจ่อกับหน้าจอ อัตราการกะพริบตาจะลดลงจาก 15-20 ครั้งต่อนาที เหลือเพียง 5-7 ครั้งต่อนาที ทำให้น้ำตาระเหยเร็วขึ้น นอกจากนี้ แสงสีฟ้าจากหน้าจอยังอาจก่อให้เกิดความเครียดต่อดวงตา ส่งผลให้อาการตาแห้งรุนแรงขึ้น

5 เคล็ดลับดูแลดวงตาให้ชุ่มชื้น

เคล็ดลับดูแลดวงตาให้ชุ่มชื้น

เมื่อเกิดอาการตาแห้งสิ่งสำคัญคือการดูแลและบรรเทาอาการอย่างถูกวิธี ซึ่งมีหลายวิธีที่สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตาและลดอาการระคายเคือง ตั้งแต่การใช้น้ำตาเทียม การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้สายตา ไปจนถึงการรักษาด้วยเทคโนโลยีทันสมัย

1. น้ำตาเทียม

น้ำตาเทียมเป็นวิธีการรักษาพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการตาแห้ง โดยน้ำตาเทียมจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและหล่อลื่นให้กับดวงตา ทดแทนน้ำตาธรรมชาติที่ขาดหายไป ปัจจุบันมีน้ำตาเทียมให้เลือกหลายรูปแบบ ทั้งชนิดน้ำและชนิดเจล ซึ่งมีความเข้มข้นและระยะเวลาในการออกฤทธิ์แตกต่างกัน การเลือกใช้น้ำตาเทียมควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้เหมาะสมกับระดับความรุนแรงของอาการ และควรหลีกเลี่ยงน้ำตาเทียมที่มีสารกันบูด เพราะอาจระคายเคืองตาได้หากใช้เป็นเวลานาน

2. งดการใช้คอนแทคเลนส์ต่อเนื่อง

การใช้คอนแทคเลนส์เป็นเวลานานอาจทำให้อาการตาแห้งรุนแรงขึ้น เนื่องจากเลนส์จะดูดซับน้ำตาและลดการไหลเวียนของออกซิเจนไปยังกระจกตา จึงควรพักการใช้คอนแทคเลนส์เป็นระยะ หรือเปลี่ยนมาใช้แว่นตาแทนในช่วงที่มีอาการตาแห้ง หากจำเป็นต้องใช้คอนแทคเลนส์ ควรเลือกชนิดที่มีค่า DK/t สูง ซึ่งช่วยให้ออกซิเจนผ่านเข้าสู่กระจกตาได้ดีขึ้น และควรใช้น้ำตาเทียมสำหรับผู้ใส่คอนแทคเลนส์โดยเฉพาะ

3. ประคบตาด้วยน้ำอุ่น

การประคบตาด้วยน้ำอุ่นเป็นวิธีธรรมชาติที่ช่วยบรรเทาอาการตาแห้งได้ดี โดยความอุ่นจะช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมันที่เปลือกตา ทำให้น้ำมันที่ผลิตออกมามีคุณภาพดีขึ้นและช่วยลดการระเหยของน้ำตา โดยควรประคบวันละ 1-2 ครั้ง ครั้งละ 5-10 นาที โดยใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่น บิดพอหมาด แล้วประคบที่เปลือกตา หลังจากนั้นอาจนวดเบา ๆ บริเวณขอบตาเพื่อช่วยให้ต่อมไขมันทำงานได้ดียิ่งขึ้น

4. การรักษาด้วยแสง (IPL)

การรักษาด้วยแสง IPL (Intense Pulsed Light) เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยบรรเทาอาการตาแห้งได้อย่างดี โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาต่อมไขมันที่เปลือกตาทำงานผิดปกติ แสง IPL จะช่วยลดการอักเสบของขอบตา กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และปรับสมดุลการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้น้ำมันที่ผลิตออกมามีคุณภาพดีขึ้น การรักษานี้ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีต่อครั้ง โดยทั่วไปจะต้องทำ 3-4 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 2-4 สัปดาห์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

5. การผ่าตัดแก้ไขเปลือกตา

สำหรับผู้ที่มีปัญหาตาสองชั้นหลบในหรือเปลือกตาผิดปกติ การผ่าตัดแก้ไขเปลือกตาอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมในการรักษาอาการตาแห้ง โดยแพทย์จะประเมินความผิดปกติของเปลือกตาและวางแผนการผ่าตัดให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล การผ่าตัดจะช่วยปรับตำแหน่งของเปลือกตาให้ปิดสนิทขึ้น ลดการระเหยของน้ำตา และช่วยให้การกะพริบตาเป็นไปอย่างสมบูรณ์ หลังการผ่าตัดคนไข้จะสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติภายในเวลาไม่กี่วัน

สรุปบทความ

สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับความผิดปกติของเปลือกตา

อาการตาแห้งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน ซึ่งในบางครั้งเกิดจากพฤติกรรมของเราเอง เราจึงควรดูแลตัวเองด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วย แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับความผิดปกติของเปลือกตาสามารถปรึกษาจักษุแพทย์ผู้ชำนาญการของ Sky Clinic ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการทำตาสองชั้น เปิดหัวตาแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ซ่อนแผลใต้คิ้ว จัดเรียงไขมันใต้ตา และ กำจัดถุงใต้ตา เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาได้เลย

ที่มา : -