7 วิธีลดอาการร้องไห้ตาบวม ให้กลับมาสดใสในพริบตา

ร้องไห้ตาบวมเป็นปัญหาที่สร้างความกังวลให้กับหลายคน โดยเฉพาะเมื่อต้องออกไปพบปะผู้คนหรือทำงาน การประคบตาร้องไห้ด้วยวิธีต่าง ๆ สามารถช่วยลดอาการบวมและทำให้ดวงตากลับมาสดใสได้อย่างรวดเร็ว วันนี้เรามีวิธีง่าย ๆ ที่สามารถทำได้เองที่บ้านมาแนะนำ เพื่อช่วยให้ดวงตากลับมาสวยงามในไม่กี่นาที

อาการร้องไห้ตาบวม

ร้องไห้ตาบวมเกิดจากการที่น้ำตาและของเหลวในร่างกายไหลมาสะสมบริเวณรอบดวงตา ทำให้เกิดอาการบวมและมีถุงใต้ตา บางครั้งอาจมีอาการแดงและระคายเคืองร่วมด้วย การประคบตาร้องไห้ด้วยวิธีต่าง ๆ จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและลดการบวมน้ำได้ ซึ่งมีหลายวิธีที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

1. ใช้น้ำเย็นประคบตา

การใช้น้ำเย็นประคบตาเป็นวิธีแรกที่ช่วยบรรเทาอาการร้องไห้ตาบวมได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเย็นบิดให้หมาด แล้วนำมาประคบบริเวณรอบดวงตาประมาณ 10-15 นาที ความเย็นจะช่วยให้หลอดเลือดหดตัว ลดการบวมน้ำ และบรรเทาอาการระคายเคือง การประคบควรทำซ้ำทุก 1-2 ชั่วโมงจนกว่าอาการจะดีขึ้น แต่ไม่ควรใช้น้ำแข็งประคบโดยตรงเพราะอาจทำให้ผิวบอบบางรอบดวงตาเกิดการระคายเคืองได้

2. ใช้ช้อนเย็นประคบ

การใช้ช้อนเย็นประคบเป็นอีกวิธีที่ช่วยลดอาการร้องไห้ตาบวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยนำช้อนสเตนเลส 2-4 คันไปแช่ในช่องแช่แข็งประมาณ 10-15 นาที จากนั้นนำมาประคบบริเวณใต้ตาและเปลือกตาที่บวม โดยใช้ด้านโค้งของช้อนวางแนบกับผิว ประคบสลับช้อนไปมาจนกว่าช้อนจะหมดความเย็น วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการประคบตาร้องไห้ในตอนเช้าเพื่อช่วยลดอาการบวมก่อนแต่งหน้าไปทำงาน เพราะทำได้สะดวกและรวดเร็ว

3. ประคบด้วยแตงกวา

การประคบด้วยแตงกวาเป็นวิธีธรรมชาติที่ช่วยลดอาการร้องไห้ตาบวมได้ดี เนื่องจากแตงกวามีคุณสมบัติในการลดการอักเสบและให้ความเย็น วิธีทำคือนำแตงกวาสดมาหั่นเป็นแว่นบาง ๆ แช่เย็นประมาณ 10 นาที แล้วนำมาวางบนเปลือกตาที่บวม ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แตงกวายังมีวิตามินอีและน้ำที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวรอบดวงตา ทำให้ผิวเต่งตึงและลดอาการบวมได้อย่างเป็นธรรมชาติ

4. ใช้ถุงชาประคบตา

ถุงชาเป็นอีกตัวช่วยที่มีประสิทธิภาพในการลดอาการร้องไห้ตาบวม โดยเฉพาะชาเขียวหรือชาคาโมมายล์ที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ วิธีประคบตาร้องไห้ทำได้โดยนำถุงชามาชงในน้ำร้อน หลังจากนั้นนำถุงชาออกมาแล้วรอให้เย็นหรือแช่ในตู้เย็น จากนั้นนำมาวางบนเปลือกตาประมาณ 10-15 นาที สารในชาจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ลดอาการบวมและอักเสบ ทำให้ดวงตาสดชื่นขึ้น ควรใช้ถุงชาใหม่ทุกครั้งเพื่อความสะอาดและปลอดภัย

5. ดื่มน้ำมาก ๆ

การดื่มน้ำเป็นวิธีแก้อาการร้องไห้ตาบวมจากภายใน เพราะเมื่อร่างกายขาดน้ำจะพยายามเก็บน้ำไว้ตามส่วนต่าง ๆ รวมถึงบริเวณรอบดวงตา ทำให้เกิดอาการบวม การดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว จะช่วยให้ร่างกายขับของเสียและน้ำส่วนเกินออกได้ดีขึ้น ลดการบวมน้ำรอบดวงตา นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น

6. นวดรอบดวงตาเบา ๆ

การนวดรอบดวงตาเป็นวิธีช่วยลดอาการร้องไห้ตาบวมที่ได้ผลดี โดยใช้นิ้วนางซึ่งมีแรงกดที่นุ่มนวลที่สุด นวดเบา ๆ เป็นวงกลมรอบดวงตา เริ่มจากหัวตาไปหางตา และวนลงมาที่ใต้ตา การนวดจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง ทำให้ของเหลวที่คั่งค้างถูกระบายออกได้ดีขึ้น แต่ต้องระวังไม่นวดแรงเกินไปเพราะอาจทำให้ผิวบอบบางรอบดวงตาบาดเจ็บได้ ควรนวดประคบตาร้องไห้ประมาณ 1-2 นาทีต่อครั้ง

7. นอนยกหัวสูง

การนอนยกหัวสูงเป็นวิธีป้องกันอาการร้องไห้ตาบวมในตอนเช้า เพราะการนอนราบทำให้ของเหลวไหลมาคั่งบริเวณใบหน้าและรอบดวงตา การใช้หมอนรองให้ศีรษะสูงกว่าลำตัวประมาณ 15-20 องศา จะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองดีขึ้น ลดการสะสมของของเหลวรอบดวงตา ควรทำร่วมกับการนอนหลับให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน เพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเอง

8. แต่งหน้าเพื่ออำพรางดวงตาบวม

หากยังมีอาการร้องไห้ตาบวมหลงเหลืออยู่ การแต่งหน้าสามารถช่วยอำพรางได้ โดยเริ่มจากการใช้ครีมบำรุงรอบดวงตาที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนเพื่อกระชับผิว ตามด้วยคอนซีลเลอร์สีที่อ่อนกว่าผิวหนึ่งเฉด ทาบริเวณที่มีร่องลึกหรือรอยคล้ำ จากนั้นใช้คอนซีลเลอร์สีเดียวกับผิวแต้มบริเวณที่บวม และเกลี่ยให้กลมกลืน หลีกเลี่ยงการใช้อายแชโดว์สีเข้มหรือกลิตเตอร์ เพราะจะยิ่งทำให้ตาดูบวมมากขึ้น

สรุปบทความ

อาการร้องไห้ตาบวมสามารถรักษาได้ด้วยวิธีธรรมชาติหลายวิธี ทั้งการประคบเย็น การใช้สมุนไพร และการดูแลสุขภาพทั่วไป การประคบตาควรทำอย่างสม่ำเสมอจนกว่าอาการจะดีขึ้น แต่หากมีอาการบวมเรื้อรังหรือถุงไขมันใต้ตาบวมที่เกิดจากสาเหตุอื่น สามารถปรึกษาจักษุแพทย์ผู้ชำนาญการของ Sky Clinic ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการทำตาสองชั้น เปิดหัวตา แก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ซ่อนแผลใต้คิ้ว จัดเรียงไขมันใต้ตา และ กำจัดถุงใต้ตา เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาได้เลย