ปัญหาตาบวมเป็นสิ่งที่หลายคนต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะตื่นมาพบว่าขอบตาล่างบวมผิดปกติ หรือสังเกตว่าบริเวณรอบดวงตามีอาการบวมเป็นระยะ ซึ่งไม่เพียงส่งผลต่อความสวยงามเท่านั้น แต่บางครั้งอาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพที่ควรใส่ใจ มาทำความเข้าใจสาเหตุของการเกิดขอบตาบวม วิธีป้องกัน และการรักษาเบื้องต้นกัน
ตาบวม (Swollen Eyes) คือ ภาวะที่เกิดการบวมน้ำ ไขมัน หรือของเหลวสะสมบริเวณรอบดวงตา ทั้งขอบตาบนและขอบตาล่าง ทำให้เกิดอาการบวมที่เห็นได้ชัดเจน ซึ่งโดยปกติแล้วบริเวณรอบดวงตาของเรามีผิวบางและมีเนื้อเยื่อที่บอบบางมาก จึงไวต่อการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เมื่อมีการคั่งของของเหลวจะทำให้เกิดการบวมได้ง่าย
อาการตาบวมสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย ตั้งแต่สาเหตุทั่วไปในชีวิตประจำวันไปจนถึงปัญหาสุขภาพที่ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ เราจะมาดูสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการขอบตาบวมเพื่อให้เข้าใจและหาวิธีป้องกันที่เหมาะสมต่อไป
เมื่อเรานอนน้อยหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายจะมีการสะสมของเหลวมากขึ้น และไม่สามารถระบายออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการคั่งบริเวณรอบดวงตาซึ่งมีเนื้อเยื่อบางเป็นพิเศษ นอกจากนี้ การอดนอนยังทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี ส่งผลให้เกิดรอยคล้ำใต้ตาและอาการบวมที่ชัดเจนยิ่งขึ้น คนที่มีปัญหานอนไม่หลับเรื้อรังจึงมักมีอาการขอบตาบวมเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงเช้าหลังตื่นนอน
เมื่อเราร้องไห้ต่อมน้ำตาจะผลิตน้ำตาในปริมาณมาก และเมื่อร้องไห้เป็นเวลานานจะทำให้เกิดการคั่งของของเหลวบริเวณรอบดวงตา อีกทั้งการร้องไห้ยังมักมาพร้อมกับการขยี้ตา ซึ่งทำให้เกิดการระคายเคืองและอาจทำให้เกิดอาการตาบวมและตาแดงได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ น้ำตายังมีส่วนประกอบของเกลือ ซึ่งเมื่อสัมผัสกับผิวบริเวณรอบดวงตาเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดการดึงน้ำและเกิดการบวมชั่วคราวได้
โดยเฉพาะในผู้ที่มีอาการแพ้ตามฤดูกาลหรือแพ้สารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ เช่น ฝุ่น ละอองเกสร หรือขนสัตว์ เมื่อร่างกายสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ จะมีการปล่อยฮิสตามีนเพื่อต่อต้านสิ่งแปลกปลอม ซึ่งทำให้เกิดอาการบวมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย รวมถึงบริเวณรอบดวงตา นอกจากนี้ การแพ้เครื่องสำอาง น้ำหอม หรือสารเคมีบางชนิดที่สัมผัสกับผิวรอบดวงตาโดยตรง ก็อาจทำให้เกิดอาการนี้ได้เช่นกัน
โรคที่พบบ่อย เช่น เยื่อบุตาอักเสบ (Conjunctivitis) หรือตากุ้งยิง (Stye) ซึ่งเป็นการอักเสบของต่อมไขมันที่ขอบตา สามารถทำให้เกิดการบวมแดงรอบดวงตาได้ชัดเจน นอกจากนี้ การอักเสบของเปลือกตา (Blepharitis) หรือถุงน้ำตาอักเสบ ก็เป็นสาเหตุของอาการที่พบได้บ่อย ซึ่งมักมาพร้อมกับอาการปวด แสบร้อน หรืออาจมีหนองร่วมด้วย หากพบว่ามีการอักเสบร่วมกับอาการตาบวม ควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม
ขอบตาล่างบวมมักพบในช่วงเช้าหลังตื่นนอน เนื่องจากเมื่อเรานอนราบ ของเหลวในร่างกายจะไหลมาสะสมที่บริเวณใบหน้าและรอบดวงตามากขึ้น นอกจากนี้ การรับประทานอาหารที่มีรสเค็มหรือมีโซเดียมสูงก็ทำให้ร่างกายเก็บกักน้ำมากขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการบวมตามส่วนต่าง ๆ รวมถึงบริเวณรอบดวงตา ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของไตหรือระบบหมุนเวียนเลือดอาจพบอาการนี้ได้ชัดเจนกว่าคนทั่วไป
ตาบวมอาจเป็นอาการแสดงของโรคบางชนิดที่ต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ เช่น โรคไทรอยด์ โดยเฉพาะภาวะไทรอยด์เป็นพิษ (Graves' disease) ที่มักมีอาการตาโปน นอกจากนี้ โรคเกี่ยวกับไต โรคตับ หรือโรคหัวใจที่ทำให้มีการคั่งของน้ำในร่างกาย ก็อาจทำให้เกิดอาการนี้ได้เช่นกัน หากสงสัยว่าอาการตาบวมเกิดจากโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้อง
อาการตาบวมเป็นผลข้างเคียงที่พบได้หลังการทำตาสองชั้น หรือศัลยกรรมบริเวณดวงตา ซึ่งเป็นเรื่องปกติของกระบวนการฟื้นตัวหลังผ่าตัด การบวมหลังทำศัลยกรรมมักจะค่อยๆ ลดลงภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่อาจใช้เวลาถึง 3-6 เดือนกว่าอาการบวมจะหายสนิท ปัจจัยที่มีผลต่อระยะเวลาการฟื้นตัว ได้แก่ เทคนิคการผ่าตัด ความชำนาญของแพทย์ และการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เช่น การประคบเย็น การนอนศีรษะสูง และการหลีกเลี่ยงการออกแรง จะช่วยลดอาการบวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยส่วนใหญ่มักไม่ใช่เรื่องร้ายแรงและสามารถหายได้เองภายในไม่กี่วัน แต่หากอาการตาบวมเกิดขึ้นอย่างรุนแรง เรื้อรัง หรือมาพร้อมกับอาการตาแดง ปวดตา มองเห็นผิดปกติ ควรพบแพทย์โดยเร็ว เนื่องจากอาจเป็นสัญญาณของโรคภูมิแพ้รุนแรง การติดเชื้อ หรือปัญหาทางระบบหมุนเวียนโลหิตที่ต้องได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง
การป้องกันเริ่มต้นจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เราควรนอนหลับให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ลดการบริโภคอาหารเค็มที่ทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำ และหลีกเลี่ยงการขยี้ตาที่อาจทำให้เกิดการระคายเคือง นอกจากนี้ การใช้หมอนที่มีความสูงเหมาะสม จะช่วยลดการสะสมของเหลวบริเวณใบหน้าและรอบดวงตาได้ สำหรับผู้ที่มีอาการตาแห้ง ควรใช้น้ำตาเทียมเพื่อหล่อลื่นดวงตาและลดการระคายเคืองที่อาจนำไปสู่อาการขอบตาบวมได้
เราสามารถบรรเทาได้ด้วยวิธีง่าย ๆ เช่น การประคบเย็นบริเวณที่ขอบตาล่างบวมประมาณ 10-15 นาที เพื่อลดการอักเสบและการบวม หรือใช้ช้อนที่แช่เย็นวางบนเปลือกตาเพื่อช่วยลดอาการบวม การนวดเบา ๆ รอบดวงตาจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง ลดการคั่งของของเหลว นอกจากนี้ ผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม ในบางกรณีที่มีอาการบวมเรื้อรังอาจต้องพิจารณาการทำตาสองชั้นเพื่อแก้ไขปัญหาโครงสร้างที่อาจเป็นสาเหตุของอาการตาบวม
อาการตาบวมเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและส่วนใหญ่ไม่ร้ายแรง สามารถป้องกันได้ด้วยการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น นอนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ และหลีกเลี่ยงการขยี้ตา หากมีอาการตาบวมสามารถบรรเทาได้ด้วยการประคบเย็นและการนวดรอบดวงตาเบา ๆ อย่างไรก็ตาม หากมีอาการรุนแรงหรือเรื้อรังควรปรึกษาแพทย์ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถปรึกษาจักษุแพทย์ผู้ชำนาญการของ Sky Clinic ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการทำตาสองชั้น เปิดหัวตา แก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ซ่อนแผลใต้คิ้ว และกำจัดถุงไขมันใต้ตา เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาของคุณ