กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเกิดจากอะไร? ภาวะนี้เป็นความผิดปกติของกล้ามเนื้อตาที่ทำให้เปลือกตาตก หรือปิดตาลงมากกว่าปกติ ส่งผลให้การมองเห็นลดลงและอาจสร้างความลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัน ภาวะนี้สามารถเกิดจากหลายสาเหตุ อย่างไรก็ตาม การสังเกตลักษณะอาการอย่างใกล้ชิดจะช่วยให้สามารถรับมือได้ทันท่วงที ถ้าหากคุณสงสัยว่าตนเองมีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงหรือไม่ วันนี้ Sky Clinic มีลักษณะอาการต่าง ๆ ที่ควรรู้มาฝากกันในบทความนี้ค่ะ
ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง คือภาวะที่กล้ามเนื้อตาไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ เกิดจากการยืดของกล้ามเนื้อตา ทำให้กล้ามเนื้อตานั้นไม่แข็งแรง ไม่สามารถพยุงหนังตาหรือชั้นตาของเราได้ ในการลืมตา กะพริบตาแต่ละครั้ง ต้องมีการประสานงานกันระหว่าง "เปลือกตา" "เส้นประสาท" และ “กล้ามเนื้อตา” โดยอาการตาปรือที่เกิดขึ้นนี้ เกิดขึ้นจากการที่ "กล้ามเนื้อตา" ทำงานได้ไม่เต็มที่นั่นเอง
เพื่อให้คุณสามารถสังเกตตัวเองและรับมือกับภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้ เรามาสังเกต 5 ลักษณะสำคัญของภาวะนี้กันค่ะ
ตาปรือ ตาดูง่วงตลอดเวลา หนังตาตก รู้สึกลืมตาไม่ขึ้น รู้สึกเมื่อยล้าบริเวณเปลือกตา จนทำให้เสียบุคลิกภาพ
เนื่องจากมีอาการตาปรือ เปลือกตาหรือหนังตาตกทำให้มองเห็นไม่ชัด พยายามลืมตาก็ทำได้ลำบาก ดวงตาไม่เปิดกว้าง
เกิดจากกล้ามเนื้อตาไม่มีแรงมากพอในการยกเปลือกตา ลืมตาไม่ขึ้น ทำให้ต้องใช้กล้ามเนื้อบริเวณใกล้เคียงในการช่วยยกเปลือกตา เช่น กล้ามเนื้อบริเวณหน้าผากและคิ้ว การใช้กล้ามเนื้อบริเวณนี้ในการลืมตา ทำให้เกิดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณหน้าผาก ทำให้คิ้วเลิกสูงขึ้นตามไปด้วย เมื่อมีการใช้กล้ามเนื้อหน้าผากเป็นเวลานาน ทำให้เกิดริ้วรอยขึ้นบนหน้าผากได้
เกิดจากการที่กล้ามเนื้อตาไม่สามารถยืดหดได้อย่างเต็มที่จนทำให้ผิวหนังเปลือกตาทับซ้อนกันจนเป็นหลายชั้น
เกิดจากการที่กล้ามเนื้อภายในตาหดตัวได้ไม่เต็มกำลัง ทำให้มีพื้นที่เปลือกตาจนถึงโหนกคิ้วมากกว่าปกติ ทำให้ตาดูลึก ในบางเคสมีปัญหาไขมันที่เสื่อมไปตามอายุ ร่วมกับอาการตาปรือจึงทำให้เบ้าตาดูเป็นร่องและลึกกว่าปกติ
ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเกิดจากหลากหลายสาเหตุ ทั้งจากพันธุกรรม การเสื่อมสภาพของกล้ามเนื้อจากอายุที่เพิ่มขึ้น รวมถึงปัจจัยจากการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งจะมีอาการที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเกิดจากพันธุกรรม เนื่องจากเป็นภาวะที่สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ ทำให้เกิดกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงตั้งแต่เด็ก หากไม่ได้รับการรักษาอาจส่งผลต่อการมองเห็นในระยะยาว
อายุที่มากขึ้นทำให้ผิวหนังบริเวณเปลือกตาเกิดความหย่อนคล้อย กล้ามเนื้อเปลือกตาเสียความยืดหยุ่น ส่งผลให้เกิดภาวะเปลือกตาตกได้ง่ายกว่าหนุ่มสาว
เช่น ทำงานหน้าคอมหรือใช้โทรศัพท์เป็นเวลานาน โดยไม่ได้มีการพักสายตา การขยี้ตาอย่างรุนแรง หรือการใส่คอนแทคเลนส์ทุกวันติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้ เช่นกัน
การทำตาสองชั้นที่ไม่ได้มาตรฐานหรือเกิดข้อผิดพลาด อาจทำให้กล้ามเนื้อตาเสียหายจนเกิดภาวะเปลือกตาตกได้
เรียกว่าโรค MG หรือ Myasthenia Gravis เป็นภาวะที่ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ ส่งผลให้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงและทำให้เปลือกตาตก
การรักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงควรได้รับการผ่าตัดกับจักษุแพทย์ผู้ชำนาญการเนื่องจากการผ่าตัดมีความซับซ้อนมากกว่าการทำตาสองชั้นเทคนิคอื่น ๆ โดยจะมีการผ่าตัดลงลึกไปถึงชั้นกล้ามเนื้อตา และเย็บตรึงกล้ามเนื้อตาเพื่อปรับระดับการยกขึ้นของเปลือกตา ช่วยให้เปิดตาได้มากขึ้น แก้ปัญหาหนังตาตก ตาปรือ ตาล้า และช่วยให้ร่องโหลที่เกิดจากภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงดีขึ้นได้ค่ะ โดยทั่วไปแล้วการปรับแก้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงนิยมทำควบคู่กับการทำตาสองชั้น จะทำให้ได้ตาที่ดูกลมโตและสวยงามขึ้นค่ะ
ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงส่งผลกระทบต่อการมองเห็นและการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะเมื่อเปลือกตาตกจนบดบังการมองเห็น หรือทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าบริเวณดวงตา ส่งผลให้ต้องเพ่งมองหรือเงยหน้าบ่อยขึ้น ซึ่งอาจทำให้รู้สึกไม่สะดวกสบายและลดคุณภาพชีวิตได้ค่ะ
กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงส่วนใหญ่ไม่สามารถหายเองได้ อาการนี้มักต้องได้รับการประเมินจากแพทย์เฉพาะทางเพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะสม เช่น การทำกายภาพบำบัดกล้ามเนื้อ หรือการผ่าตัดในกรณีที่มีอาการรุนแรง
การทำตาสองชั้นเพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถแก้ไขภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้ค่ะ เนื่องจากการรักษาต้องพิจารณาถึงการปรับกล้ามเนื้อภายในร่วมด้วย การผ่าตัดเฉพาะตาสองชั้นอาจช่วยเรื่องความสวยงาม แต่ไม่ได้แก้ไขปัญหากล้ามเนื้อที่เป็นต้นเหตุ
การแก้ไขภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงสามารถช่วยให้เปลือกตายกขึ้นอย่างถาวร แต่ในบางกรณี โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่เกิดจากสาเหตุทางพันธุกรรมหรือโรคภูมิคุ้มกัน อาจมีโอกาสที่อาการจะกลับมาอีก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลและคำแนะนำจากแพทย์
หากใครที่มีอาการที่บ่งชี้ถึงภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง แนะนำให้ทำการปรับแก้กล้ามเนื้อตาควบคู่ไปด้วย ทั้งนี้ เพื่อความแม่นยำ แนะนำให้เข้าพบคุณหมอเพื่อปรึกษากับคุณหมอโดยตรงนะคะ เพื่อที่คุณหมอจะได้ประเมินปัญหาชั้นตาและแก้ไขปัญหาตาให้คนไข้ได้อย่างตรงจุดค่ะ