Ptosis คืออะไร มีสาเหตุมาจากอะไร แก้ไขได้ด้วยการศัลยกรรมตาจริงหรือไม่

ปัญหาตาปรือหรือที่เรียกทางการแพทย์ว่า Ptosis คือภาวะที่กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ส่งผลให้หนังตาตก คล้อยหรือย้อยลงมาปิดบริเวณตาดำ ทำให้ดวงตาดูไม่สดใส เหมือนคนง่วงนอนตลอดเวลา ซึ่งนอกจากจะส่งผลต่อความมั่นใจแล้ว ในระยะยาวยังอาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็นได้ แต่ไม่ต้องกังวล เพราะปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการผ่าตัดศัลยกรรมตาซึ่งจะช่วยให้คุณกลับมามีดวงตาที่สดใส และมั่นใจในการใช้ชีวิตได้อีกครั้ง

Ptosis คืออะไร

Ptosis คือภาวะที่กล้ามเนื้อตาไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ เกิดจากความผิดปกติของกลไกในการยกหนังตาขณะลืมตา ซึ่งเกิดจากกล้ามเนื้อที่ใช้ในการยกเปลือกตาบน (Levator muscle) อ่อนแรงหรือทำงานผิดปกติทำให้กล้ามเนื้อตาไม่แข็งแรงพอที่จะยึดหรือพยุงหนังตาได้ ส่งผลให้หนังตาตกลงมาปิดตาดำ ทำให้ดูเหมือนคนง่วงนอนอยู่ตลอดเวลา

สาเหตุของการเกิด Ptosis คืออะไร 

สาเหตุหลักของการเกิดภาวะ Ptosis มีหลายประการ ได้แก่ พันธุกรรมที่ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแต่กำเนิด อายุที่เพิ่มขึ้นทำให้กล้ามเนื้อตาเสื่อมและอ่อนล้า ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เช่น โรค MG (Myasthenia Gravis) การผ่าตัดที่ผิดพลาดหรือการบาดเจ็บที่หนังตา รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การใช้มือถือหรือมองหน้าจอเป็นเวลานาน ทำให้ตาจะปิดตลอดเวลา รวมทั้งการใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำและการขยี้ตารุนแรง ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะ Ptosis อีกด้วย 

ระดับความรุนแรงของภาวะ Ptosis 

ภาวะที่กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงสามารถแบ่งได้ทั้งหมด 3 ประเภท ตามระดับความรุนแรง ดังนี้ 

1. ระดับเล็กน้อย (Mild Ptosis)

ในระดับนี้ จะสังเกตเห็นว่าขอบล่างของหนังตาบนตกลงมาคลุมตาดำมากกว่า 1 มิลลิเมตรในคนวัยหนุ่มสาว หรือมากกว่า 2 มิลลิเมตรในผู้สูงอายุ แม้จะเป็นระดับเริ่มต้น แต่ก็ควรสังเกตตัวเองอย่างใกล้ชิดและเข้าปรึกษาแพทย์เพื่อป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงขึ้นในอนาคต 

2. ระดับปานกลาง (Moderate Ptosis)

ในระดับปานกลาง หนังตาบนจะตกลงมาคลุมตาดำและม่านตาบางส่วน ทำให้เริ่มส่งผลกระทบต่อการมองเห็นและความมั่นใจในชีวิตประจำวัน ผู้ที่มีอาการในระดับนี้ควรพิจารณาการรักษาเพื่อป้องกันไม่ให้อาการลุกลามจนกระทบต่อคุณภาพชีวิต

3. ระดับรุนแรง (Severe Ptosis) 

ในระดับรุนแรง หนังตาบนจะตกลงมาคลุมม่านตาเกินครึ่งของม่านตาดำ ทำให้ดูเหมือนตาจะปิดตลอดเวลา ส่งผลกระทบอย่างชัดเจนต่อการมองเห็นและการใช้ชีวิตประจำวัน ผู้ที่มีอาการในระดับนี้จำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยเร็ว เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ 

Ptosis มีอาการอะไรบ้าง สามารถสังเกตุได้จากอะไร 

สามารถสังเกตอาการของภาวะ Ptosis ได้จากหลายลักษณะ เช่น หนังตาตก ตาปรือ ดูเหนื่อยล้าตลอดเวลา แม้จะลืมตาเต็มที่แล้วแต่หนังตายังคงไม่เบิกกว้าง มีหนังตาซ้อนกันหลายชั้น และกล้ามเนื้อตาไม่สามารถยืดหดได้อย่างเต็มที่ 

นอกจากนี้ ยังอาจมีอาการหนังตาหย่อนลงมาปิดทับตาดำจนทำให้การมองเห็นแย่ลงและอาจนำไปสู่ภาวะตาขี้เกียจได้ บางคนอาจมีอาการกล้ามเนื้อหน้าผากเกร็งค้างเพื่อพยายามยกคิ้วและหนังตาขึ้น จนเกิดเป็นริ้วรอยบนหน้าผากได้

ภาวะกล้ามเนื้อยกหนังตาอ่อนแรง (Ptosis) อันตรายไหม 

ภาวะ Ptosis คือภาวะที่อาจจะไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิตในทันที แต่ก็ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก โดยเฉพาะในด้านความมั่นใจเพราะดวงตาทั้งสองข้างอาจดูไม่เท่ากัน ทำให้ถูกทักว่าดูง่วงซึมหรือเหนื่อยล้าอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ ยังส่งผลเสียต่อดวงตา อาจทำให้มองภาพไม่ชัดและอาจนำไปสู่โรคทางสายตาอื่น ๆ หากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที 

วิธีแก้ไขภาวะ Ptosis มีอะไรบ้าง  

การแก้ไขภาวะ Ptosis คือการผ่าตัดแก้ไขกล้ามเนื้อยกหนังตาอ่อนแรง (Ptosis Correction Surgery) โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดลงลึกไปถึงชั้นกล้ามเนื้อตา เพื่อปรับแก้กล้ามเนื้อตาในส่วนที่มีปัญหา การผ่าตัดนี้มักจะทำร่วมกับการทำตาสองชั้น เนื่องจากต้องมีการเปิดแผลจากการทำตาสองชั้นก่อน ผลลัพธ์ของการผ่าตัดจะช่วยให้ดวงตากลมโต สดใสและตาดำเปิดชัดขึ้น ไม่บดบังทัศนวิสัยในการมอง 

คำถามที่พบบ่อย 

1. การทำตาสองชั้น แก้ไขปัญหาตาปรือได้หรือไม่ ?

การทำตาสองชั้นเพียงอย่างเดียวไม่สามารถแก้ไขปัญหาตาปรือได้อย่างสมบูรณ์ เนื่องจากต้องมีการปรับแก้กล้ามเนื้อตาร่วมด้วย ดังนั้น การรักษาที่เหมาะสม คือการทำการปรับกล้ามเนื้อตาควบคู่ไปกับการทำตาสองชั้นพร้อมกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

2. หนังตาตกลงมาแค่ไหนถึงจะเป็นภาวะ Ptosis

โดยทั่วไป หากหนังตาตกลงมาปิดบริเวณดวงตามากกว่า 2 มิลลิเมตรขึ้นไป จะถือว่าเข้าข่ายภาวะ Ptosis ซึ่งควรได้รับการตรวจประเมินจากจักษุแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม

3. Ptosis ปล่อยไว้นาน ๆ ได้หรือไม่

การปล่อยภาวะ Ptosis ไว้เป็นเวลานานไม่ใช่ทางเลือกที่ดี เพราะเมื่ออายุมากขึ้น ความหย่อนคล้อยบริเวณเปลือกตาจะยิ่งมีมากขึ้น ทำให้อาการตาปรือรุนแรงกว่าเดิมและอาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็นในระยะยาวได้

4. หากมีอาการตาปรือข้างเดียว สามารถแก้ไขได้หรือไม่

การแก้ไขปัญหาตาปรือ ไม่ว่าจะเป็นข้างเดียวหรือสองข้างสามารถทำได้ แต่ควรเลือกรักษาที่คลินิกหรือโรงพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือ และแพทย์ที่มีประสบการณ์เฉพาะทาง เนื่องจากเป็นการแก้ไขที่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อตาโดยตรง

แก้ปัญหาภาวะ Ptosis ที่ Sky Clinic ดีกว่าอย่างไร

ให้คุณได้มั่นใจให้ผลลัพธ์ที่ถูกใจได้ Sky Clinic เราดำเนินการโดยจักษุแพทย์ผู้ชำนาญการที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ ทำให้สามารถออกแบบและแก้ไขชั้นตาของคุณให้กลับมาสวยและได้ผลลัพธ์ที่ตรงจุด 

ทั้งนี้ก่อนเข้ารับการผ่าตัด คนไข้ทุกรายจะได้เข้าพบและปรึกษากับจักษุแพทย์ เพื่อประเมินชั้นตาให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาเหมาะสมกับรูปตามากที่สุด นอกจากนี้ เรายังใช้เทคนิคการเย็บแผลด้วย Premium Stitch ใช้ไหมเส้นเล็กชนิดพิเศษ มีขนาดเล็กกว่าเส้นผม ซึ่งการใช้ไหมชนิดนี้จะช่วยลดโอกาสในการเกิดแผลคีลอยด์ตาสองชั้นอีกด้วยทำให้แผลมีความเรียบเนียนสวย ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน ทำเสร็จแล้วสามารถใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้เลย  

สรุป

ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงหรือ Ptosis คืออีกปัญหาที่ส่งผลกระทบทั้งด้านความมั่นใจและการมองเห็น สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งพันธุกรรม อายุ หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิต แม้จะดูเหมือนเป็นปัญหาเล็กน้อย แต่หากปล่อยไว้อาจส่งผลเสียในระยะยาว การรักษาที่ดีที่สุดคือการผ่าตัดแก้ไขโดยจักษุแพทย์ ซึ่งจะช่วยให้คุณกลับมามีดวงตาที่สดใส และมั่นใจในการใช้ชีวิตได้อีกครั้ง