10 วิธีลดใต้ตาดำพร้อมเคล็ดลับบำรุงให้ตาดูสดใสอ่อนเยาว์
icon  icon
วิธีลดใต้ตาดำให้หน้าดูสดใส

ใต้ตาดำไม่ใช่เรื่องเล็ก! รวม 10 วิธีลดใต้ตาดำให้หน้าดูสดใสขึ้น

ปัญหาใต้ตาดำเป็นปัญหาที่หลายคนกำลังเผชิญและมองหาวิธีลดใต้ตาดำที่ได้ผลจริง เนื่องจากรอยคล้ำใต้ดวงตาทำให้ใบหน้าดูอ่อนเพลีย ขาดความสดใส และดูแก่กว่าวัย บทความนี้จะพาทุกคนไปเข้าใจสาเหตุของปัญหาขอบตาดำ พร้อมแนะนำวิธีแก้ไขอย่างได้ผลด้วยทั้งวิธีธรรมชาติและการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จากคลินิกทำตากัน

ใต้ตาดำเกิดจากสาเหตุอะไร?

ก่อนที่เราจะรู้จักวิธีลดใต้ตาดำจำเป็นต้องเข้าใจสาเหตุของปัญหาก่อน โดยขอบตาดำไม่ได้เกิดจากการอดนอนเพียงอย่างเดียว แต่มีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดได้ ซึ่งเมื่อเรารู้สาเหตุที่แท้จริงแล้ว จะช่วยให้เลือกวิธีแก้ไขได้ตรงจุด ทำให้การลดขอบตาดำมีประสิทธิภาพมากขึ้น

กรรมพันธุ์

กรรมพันธุ์เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดใต้ตาดำได้ง่าย ซึ่งพบได้บ่อยในคนที่มีโครงสร้างใบหน้าที่มีเบ้าตาลึก หรือผิวบาง ทำให้เส้นเลือดใต้ผิวบริเวณใต้ตาปรากฏให้เห็นเป็นสีคล้ำ หรือมีเม็ดสีเมลานินเข้มบริเวณใต้ตา การมีเบ้าตาลึกเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดเงาใต้ตา แม้จะพักผ่อนเพียงพอก็ยังมีรอยคล้ำได้ แต่ความน่าสนใจคือมีเบ้าตาลึกเป็นลักษณะตาบอกนิสัยว่าเป็นคนช่างคิดและละเอียดอ่อนได้อีกด้วย

ภูมิแพ้

ภูมิแพ้เป็นสาเหตุของใต้ตาดำที่หลายคนมองข้าม เมื่อเกิดอาการแพ้ ร่างกายจะผลิตสารฮิสตามีนที่ทำให้เส้นเลือดขยายตัว เกิดอาการคัน น้ำตาไหล และบวมบริเวณรอบดวงตา การขยี้ตาบ่อย ๆ เพราะอาการคันยิ่งทำให้เกิดการระคายเคืองและอักเสบ ส่งผลให้ผิวใต้ตาคล้ำขึ้น นอกจากนี้ การอักเสบยังเพิ่มการไหลเวียนเลือดที่ผิดปกติใต้ดวงตา ทำให้เส้นเลือดขยายตัวและปรากฏเป็นรอยคล้ำใต้ตาได้ชัดเจนขึ้น

การขยี้ตา

พฤติกรรมการขยี้ตาบ่อยๆ ส่งผลเสียต่อผิวบริเวณใต้ตาอย่างมาก เนื่องจากผิวบริเวณนี้บอบบาง การขยี้ตาแรง ๆ จะทำลายเส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนัง ทำให้เลือดรั่วซึมและก่อให้เกิดรอยช้ำใต้ตา นอกจากนี้ ยังทำให้เกิดการอักเสบและกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานิน ส่งผลให้ผิวใต้ตาคล้ำขึ้นเรื่อย ๆ เป็นวงจรที่ทำให้ใต้ตาดำเรื้อรัง ดังนั้นการหยุดขยี้ตาจึงเป็นวิธีลดใต้ตาดำที่ได้ผลวิธีหนึ่ง

อายุที่มากขึ้น

เมื่ออายุมากขึ้น ผิวจะผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินน้อยลง ทำให้ผิวบางลงและเกิดรอยคล้ำใต้ตาได้ง่าย เมื่อชั้นผิวหนังบางลง เส้นเลือดใต้ผิวจะปรากฏให้เห็นชัดเจนขึ้น นอกจากนี้ การเสื่อมของเซลล์ไขมันใต้ผิวหนังยังทำให้เกิดร่องลึกและเงาใต้ตา ยิ่งไปกว่านั้น ปริมาณไขมันที่ลดลงยังทำให้เกิดถุงใต้ตาได้ง่ายขึ้น ดังนั้นการบำรุงผิวรอบดวงตาอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันและลดเลือนขอบตาดำ

10 วิธีลดใต้ตาดำให้หน้าดูสดใส

การแก้ไขปัญหาใต้ตาดำทำได้หลายวิธี ทั้งการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ไปจนถึงการรักษาทางการแพทย์ เรามาดูวิธีลดใต้ตาดำและขอบตาดำที่ได้ผลจริงกัน โดยเริ่มจากวิธีธรรมชาติที่ทำได้ง่ายที่บ้าน ไปจนถึงการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

1. นอนหลับให้เพียงพอ

ระหว่างที่เรานอนหลับร่างกายจะซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหาย และกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ช่วยลดการคั่งของเลือดใต้ดวงตา ควรนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน และพยายามนอนและตื่นในเวลาเดียวกันทุกวัน นอกจากนี้ การนอนหนุนหมอนสูงเล็กน้อยยังช่วยลดการบวมใต้ตา ป้องกันของเหลวสะสมบริเวณใต้ตา ทำให้ตื่นมาหน้าตาสดใสไม่บวมช้ำ

2. ดื่มน้ำให้มากพอ

การดื่มน้ำเปล่าอย่างเพียงพอช่วยกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย ลดอาการบวมน้ำใต้ตา และช่วยให้ผิวเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว โดยเฉพาะในช่วงเช้าหลังตื่นนอนเพื่อช่วยขับสารพิษที่สะสมระหว่างการนอนหลับ ลดการบวมและคล้ำใต้ตา นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์มากเกินไป เพราะจะทำให้ร่างกายขาดน้ำ ส่งผลให้ใต้ตาดำชัดเจนขึ้น

3. ทาครีมบำรุงรอบดวงตา

ทาครีมบำรุงรอบดวงตา

ควรเลือกครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินซี วิตามินเค และเปปไทด์ ซึ่งช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว และลดเลือนรอยคล้ำได้ ส่วนผสมอื่นๆ ที่มีประสิทธิภาพ ได้แก่ คาเฟอีน ซึ่งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ลดอาการบวม และรีทินอลที่ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวใต้ตาดูกระจ่างใสขึ้น ทาครีมเบาๆ ด้วยนิ้วนาง วันละ 2 ครั้ง

4. ประคบเย็น

ความเย็นจะช่วยลดการอักเสบและกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทำให้เส้นเลือดหดตัว ลดอาการบวมที่ไม่ใช่ลักษณะดอลลี่อายที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน และการลดรอยคล้ำใต้ตาสามารถใช้ช้อนที่แช่เย็นในตู้เย็น ถุงน้ำแข็ง หรือแผ่นเจลเย็นประคบบริเวณใต้ตา 5-10 นาที หรือจะใช้เทคนิคง่าย ๆ ด้วยการนำแตงกวาหั่นแว่นบางๆ แช่เย็น แล้วนำมาวางที่ตา เพราะแตงกวามีสารต้านการอักเสบและช่วยให้ผิวชุ่มชื้น การประคบเย็นยังช่วยให้ดวงตาดูสดใสขึ้น  

5. กินอาหารที่มีวิตามิน C และสารต้านอนุมูลอิสระ

อาหารที่มีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระสูงช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวแข็งแรงและลดเลือนรอยคล้ำใต้ตาได้ ควรเพิ่มการบริโภคผักและผลไม้สด เช่น ส้ม กีวี พริกหวาน บลูเบอร์รี่ ผักใบเขียว และมะเขือเทศ นอกจากนี้ อาหารที่มีวิตามินเค เช่น ผักคะน้า บร็อคโคลี ผักโขม ช่วยลดการอุดตันในเส้นเลือดและลดภาวะเลือดคั่งใต้ตา ส่วนอาหารที่มีโอเมก้า-3 เช่น ปลาแซลมอน เมล็ดเจีย วอลนัท ช่วยลดการอักเสบและทำให้ผิวเปล่งปลั่งจากภายใน

6. หยุดขยี้ตา

ผิวรอบดวงตาบอบบางมาก การขยี้ตาแรง ๆ ทำให้เส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังแตก เกิดรอยช้ำและรอยคล้ำได้ หากมีอาการคันตา ให้ใช้น้ำเย็นประคบหรือใช้น้ำตาเทียมหยอด ในกรณีที่เป็นภูมิแพ้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อใช้ยาแก้แพ้ที่เหมาะสม เวลาเช็ดเครื่องสำอางบริเวณตา ให้ใช้น้ำยาเช็ดเครื่องสำอางสูตรอ่อนโยน และเช็ดเบา ๆ โดยแตะพักไว้แล้วค่อยๆ เช็ดออก ไม่ควรขยี้หรือถูแรงๆ เพื่อป้องกันการระคายเคืองที่จะนำไปสู่ขอบตาดำ

7. ลดความเครียด

ความเครียดส่งผลเสียต่อผิวพรรณและเป็นสาเหตุหนึ่งของใต้ตาดำ เมื่อเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งทำให้เส้นเลือดขยายตัวและปรากฏเป็นรอยคล้ำใต้ตาได้ชัดเจน ควรหาเวลาผ่อนคลาย เช่น ทำสมาธิ โยคะ หรือออกกำลังกายเบา ๆ การนวดใบหน้าและขมับเบา ๆ ก็ช่วยคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อใบหน้าและกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทำให้ผิวรอบดวงตาดูสดใสขึ้น การลดความเครียดไม่เพียงช่วยลดขอบตาดำ แต่ยังส่งผลดีต่อคุณภาพการนอนและสุขภาพโดยรวมอีกด้วย

8. ฉีดเมโสใต้ตาดำ

เป็นการฉีดสารอาหารและวิตามินเข้าไปในชั้นผิวบริเวณใต้ตาโดยตรง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพิ่มความแข็งแรงให้ผิว และปรับสภาพผิวให้กระจ่างใส โดยสารที่ฉีดมักประกอบด้วยวิตามินซี กรดไฮยาลูรอนิก และสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ข้อดีของการฉีดเมโสคือเห็นผลเร็ว ไม่ต้องพักฟื้นนาน และสามารถกลับไปทำงานได้ทันที แต่อาจต้องทำหลายครั้งต่อเนื่องกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

9. รักษาด้วย IPL

การรักษาด้วย IPL (Intense Pulsed Light) เป็นการใช้แสงพัลส์ความเข้มสูงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง ช่วยลดเลือนรอยคล้ำและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ เทคโนโลยีนี้ยังช่วยลดการอักเสบและกระชับผิวบริเวณใต้ตา ทำให้ตาดูสดใสอ่อนเยาว์ขึ้น การรักษาใช้เวลาเพียง 15-30 นาที ไม่เจ็บมาก และไม่จำเป็นต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่อาจมีอาการแดงเล็กน้อยหลังทำ ซึ่งจะหายไปภายใน 24 ชั่วโมง การรักษานี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีใต้ตาดำจากเม็ดสีเมลานินและเส้นเลือดใต้ผิวหนัง

10. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะสำหรับผู้ที่มีร่องลึกใต้ตาหรือเบ้าตาลึก ทำให้เกิดเงาและดูมีขอบตาดำ แพทย์จะฉีดสารเติมเต็มประเภทกรดไฮยาลูรอนิกเข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณร่องใต้ตา เพื่อเติมเต็มร่องลึกและลดเงาที่ทำให้ดูเป็นขอบตาดำ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นาน 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และการตอบสนองของร่างกาย ข้อดีคือเห็นผลทันที ไม่ต้องพักฟื้นนาน

สรุปบทความ

ปัญหาใต้ตาดำแก้ไขด้วยหลากหลายวิธี

ปัญหาใต้ตาดำสามารถแก้ไขได้ด้วยหลากหลายวิธี ทั้งการดูแลตนเองที่บ้านและการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การเลือกวิธีลดใต้ตาดำที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของปัญหา แต่สำหรับผู้ที่สนใจแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับตาด้วยแพทย์ สามารถปรึกษาจักษุแพทย์ผู้ชำนาญการของ Sky Clinic ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการทำตาสองชั้น เปิดหัวตา แก้ตา แก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ซ่อนแผลใต้คิ้ว และกำจัดถุงใต้ตา เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาของคุณ

ที่มา : -