ตาเหลืองเป็นอาการที่หลายคนอาจมองข้าม แต่ความจริงแล้วอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด หลายคนอาจสงสัยว่าตาเหลืองเกิดจากอะไร และเกี่ยวข้องกับโรคต่าง ๆ หรือไม่ บทความนี้จะพาทุกคนไปสำรวจถึงสาเหตุของอาการตาเหลือง พร้อมวิธีแก้ไขที่ช่วยดูแลสุขภาพดวงตาให้ดียิ่งขึ้นกัน
อาการตาเหลือง คือ ภาวะที่ตาขาวเปลี่ยนเป็นสีเหลือง เนื่องจากการสะสมของบิลิรูบินในกระแสเลือด ซึ่งเป็นสารที่เกิดจากการแตกตัวของเซลล์เม็ดเลือดแดง อาการนี้มักพบในคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับ ทางเดินน้ำดี หรือโรคเกี่ยวกับระบบเลือด ผู้ป่วยอาจมีอาการร่วมอื่น ๆ เช่น ตัวเหลือง คันตามร่างกาย หรือปวดบริเวณช่องท้องด้านขวาบน ซึ่งหากเรามีอาการตาเหลืองร่วมกับอาการอื่น ๆ ที่น่ากังวล ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
อาการตาเหลืองเกิดจากสาเหตุหลายประการ ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพที่ซับซ้อน เช่น ความผิดปกติของตับ โรคเลือด หรือระบบน้ำดี การเข้าใจถึงสาเหตุเหล่านี้สามารถช่วยให้เราป้องกันและรักษาอาการตาเหลืองได้อย่างถูกต้อง
ภาวะดีซ่านเกิดจากการสะสมของบิลิรูบินในร่างกาย ซึ่งมักเกิดจากปัญหาการทำงานของตับที่ไม่สมบูรณ์ เช่น การอักเสบหรือการอุดตันของท่อน้ำดี การสลายตัวของเม็ดเลือดแดงอย่างผิดปกติก็อาจเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้บิลิรูบินในเลือดเพิ่มขึ้น ผลลัพธ์ที่ตามมาคืออาการตาเหลือง ตัวเหลือง และปัสสาวะสีเข้ม หากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษา อาจส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะอื่น ๆ ได้
โรคตับ เช่น ตับอักเสบ ตับแข็ง หรือไขมันพอกตับ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ตับไม่สามารถกำจัดบิลิรูบินได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาการที่พบในผู้ป่วยโรคตับมักรวมถึงตาเหลือง ตัวเหลือง อ่อนเพลีย และปวดท้อง การตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อประเมินการทำงานของตับจึงเป็นสิ่งสำคัญ
การอุดตันของท่อน้ำดี เช่น นิ่วในถุงน้ำดี หรือการเจริญเติบโตของเนื้องอกในระบบทางเดินน้ำดี ส่งผลให้บิลิรูบินไม่สามารถถูกขับออกจากร่างกายได้ ทำให้สารนี้สะสมในเลือดจนเกิดอาการตาเหลือง การตรวจอัลตราซาวด์หรือตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สามารถช่วยวินิจฉัยภาวะนี้ได้
มะเร็งตับอ่อนเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของอาการตาเหลือง เนื่องจากเนื้องอกอาจไปกดทับท่อน้ำดี ทำให้เกิดการอุดตัน การสังเกตอาการอื่น ๆ เช่น น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ หรืออาการปวดท้องรุนแรง เป็นสิ่งสำคัญในการวินิจฉัยโรคนี้
ธาลัสซีเมียเป็นโรคทางพันธุกรรมที่ส่งผลต่อการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงในร่างกาย ผู้ป่วยมักมีอาการซีด เหนื่อยง่าย และตาเหลือง เนื่องจากเซลล์เม็ดเลือดแดงในร่างกายแตกตัวเร็วกว่าปกติ การตรวจเลือดและการให้คำปรึกษาทางพันธุกรรมช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจและจัดการกับโรคนี้ได้อย่างเหมาะสม
การดูแลสุขภาพตาและร่างกายให้สมบูรณ์ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการตาเหลืองโดยวิธีที่ดีที่สุดคือการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันและการเลือกดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ หรือหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ การทำสิ่งเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยลดโอกาสของอาการตาเหลืองที่เกิดจากปัญหาสุขภาพได้
สำหรับผู้ที่มีปัญหาตาแห้งและรู้สึกระคายเคือง การใช้น้ำตาเทียมเป็นทางเลือกที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตาและป้องกันปัญหาที่อาจนำไปสู่อาการตาเหลือง น้ำตาเทียมสามารถลดความเสี่ยงจากฝุ่นละอองและสารระคายเคืองที่เข้าสู่ดวงตาได้ การเลือกน้ำตาเทียมที่ปราศจากสารกันเสียจะช่วยลดผลข้างเคียง และการใช้น้ำตาเทียมควรเป็นไปตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อความปลอดภัย
การดื่มน้ำให้เพียงพอวันละ 8–10 แก้วมีส่วนสำคัญต่อการล้างสารพิษในร่างกาย และช่วยรักษาสมดุลของระบบไหลเวียนโลหิต ซึ่งส่งผลดีต่อการทำงานของตับ การดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมยังช่วยลดโอกาสที่บิลิรูบินจะสะสมในร่างกายจนทำให้เกิดอาการตาเหลืองได้ นอกจากนี้ การพกขวดน้ำติดตัวและจิบบ่อย ๆ เป็นวิธีที่ช่วยให้ร่างกายได้รับน้ำอย่างต่อเนื่อง
อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเอและเบต้าแคโรทีน เช่น แครอท บล็อกโคลี ฟักทอง และไข่แดง มีคุณสมบัติช่วยบำรุงดวงตาและสนับสนุนการทำงานของตับ วิตามินเอช่วยลดความเสี่ยงของภาวะตาแห้งและตาเหลือง รวมถึงช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย การทานอาหารหลากหลายชนิดในสัดส่วนที่เหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน
วิตามินบำรุงสายตา เช่น ลูทีน ซีแซนทีน และวิตามินเอ มีบทบาทสำคัญในการป้องกันปัญหาสุขภาพตา การเลือกรับประทานวิตามินเหล่านี้ในรูปแบบเสริม หรือจากอาหารที่มีสารอาหารเหล่านี้อยู่มาก เช่น ผักโขม และผลไม้ตระกูลเบอร์รี ช่วยป้องกันอาการตาแห้งและลดความเสี่ยงของอาการตาเหลืองจากภาวะการทำงานของตับผิดปกติได้
การใส่คอนแทกต์เลนส์ที่ได้มาตรฐานและเหมาะสมกับสภาพดวงตาสำคัญมาก เนื่องจากเลนส์ที่ไม่ได้คุณภาพอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือติดเชื้อที่ดวงตา นำไปสู่อาการตาเหลืองได้ การเลือกเลนส์ที่มีความชุ่มชื้นสูงและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้งานเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติ
การนอนหลับที่เพียงพอวันละ 7–8 ชั่วโมงช่วยให้ร่างกายได้ซ่อมแซมตัวเองอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการฟื้นฟูการทำงานของตับและระบบไหลเวียนโลหิต นอกจากนี้ การหลีกเลี่ยงการนอนดึกหรือพักผ่อนไม่เพียงพอเป็นประจำยังช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการตาเหลืองได้อีกด้วย
การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปและการสูบบุหรี่ส่งผลเสียต่อตับและระบบการทำงานในร่างกาย การลดหรือเลิกพฤติกรรมเหล่านี้ช่วยลดภาระการทำงานของตับและป้องกันอาการตาเหลืองที่เกิดจากโรคตับหรือภาวะบิลิรูบินสะสม การเลือกใช้วิธีทดแทน เช่น การออกกำลังกาย หรือการหากิจกรรมอื่นแทน เป็นแนวทางที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืน
อาการตาเหลืองอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ต้องได้รับการดูแลอย่างจริงจัง การป้องกันและดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมช่วยลดความเสี่ยงของอาการนี้ได้ แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีปัญหาเรื่องสุขภาพดวงตา แต่ต้องการปรับรูปตาให้สวยสมดุล สามารถปรึกษาจักษุแพทย์ผู้ชำนาญการของ Sky Clinic ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการทำตาสองชั้น เปิดหัวตาแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ซ่อนแผลใต้คิ้ว จัดเรียงไขมันใต้ตา และกำจัดถุงใต้ตา เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาได้เลย