เปลือกตาอักเสบ เกิดจากอะไร มีวิธีรักษาอย่างไรให้หายเร็ว
icon  icon
เปลือกตาอักเสบรักษาได้อย่างไร

เปลือกตาอักเสบเรื้อรัง แก้อย่างไรไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ

หากเราเคยรู้สึกคันตา แสบตา หรือมีขี้ตามากผิดปกติ อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของภาวะเปลือกตาอักเสบที่กำลังรบกวนดวงตาของเรา ภาวะนี้ไม่เพียงส่งผลต่อความรู้สึกไม่สบายตาเท่านั้น แต่หากปล่อยไว้นานอาจกลายเป็นเปลือกตาอักเสบเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันและอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ มาทำความเข้าใจสาเหตุและวิธีรักษาเพื่อให้หายเร็วกัน

เปลือกตาอักเสบ คืออะไร

เปลือกตาอักเสบ (Blepharitis) คือภาวะที่มีการอักเสบบริเวณขอบเปลือกตา ซึ่งเป็นบริเวณที่มีต่อมไขมันและขนตาจำนวนมาก โดยมักจะพบอาการตาแดง คัน แสบ มีขี้ตามากผิดปกติ รู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมในตา ขอบตาแดง หรือมีสะเก็ดเกาะบริเวณขอบตาและโคนขนตา บางรายอาจมีอาการเปลือกตาบวมเหมือนดอลลี่อาย ขนตาร่วงง่าย หรือมีการติดเชื้อที่ถุงน้ำตาร่วมด้วย ภาวะนี้สามารถเกิดได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ และมักเป็นภาวะเรื้อรังที่อาจกลับมาเป็นซ้ำได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ผู้ที่มีปัญหานี้ควรได้รับคำปรึกษาจากคลินิกทำตาที่มีความเชี่ยวชาญในการรักษาโรคตา

ชนิดเปลือกตาอักเสบ

สามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลักตามตำแหน่งที่เกิดอาการ ซึ่งแต่ละชนิดมีสาเหตุและวิธีการรักษาที่แตกต่างกัน การวินิจฉัยที่ถูกต้องจะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพและลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำ นอกจากนี้ บางคนอาจมีอาการเปลือกตาอักเสบทั้งสองชนิดร่วมกัน (Mixed blepharitis) ซึ่งต้องการการดูแลรักษาที่ครอบคลุม

เปลือกตาอักเสบส่วนหน้า (Anterior Blepharitis)

เกิดขึ้นที่บริเวณขอบเปลือกตาด้านนอกซึ่งเป็นส่วนที่ขนตางอกออกมา มักมีสาเหตุจากการติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณโคนขนตา โดยเฉพาะเชื้อ Staphylococcus หรือเกิดจากภาวะผิวหนังอักเสบรังแค (Seborrheic dermatitis) ที่พบบริเวณหนังศีรษะและใบหน้า อาการที่พบบ่อยคือมีสะเก็ดสีขาวหรือสีเหลืองเกาะอยู่ที่โคนขนตา เปลือกตาแดง คัน และอาจมีขี้ตามากในตอนเช้า บางรายอาจพบว่าขนตาร่วงง่ายหรือมีการเจริญของขนตาผิดทิศทาง ปัญหานี้อาจส่งผลกระทบต่อผู้ที่ต้องการทำตาสองชั้นด้วย การทำความสะอาดตาอย่างสม่ำเสมอและถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาภาวะนี้

เปลือกตาอักเสบส่วนหลัง (Posterior Blepharitis)

เปลือกตาอักเสบส่วนหลังเกิดที่บริเวณขอบเปลือกตาด้านในที่สัมผัสกับลูกตา มักมีสาเหตุจากความผิดปกติของต่อมไขมันเมโบเมียน (Meibomian gland) ซึ่งเป็นต่อมที่ผลิตน้ำมันมาหล่อลื่นผิวตา เมื่อต่อมนี้อุดตันหรือทำงานผิดปกติ ทำให้เกิดการอักเสบและระคายเคืองที่เปลือกตาและผิวตา อาการที่พบคือตาแห้ง ระคายเคือง แสบตา รู้สึกหนักเปลือกตา และมีขอบตาแดง บางรายอาจรู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมในตา หรือมีน้ำตาไหลมากผิดปกติเมื่อตาถูกลม ภาวะนี้มักพบร่วมกับโรคสิวโรซาเซีย หรือโรคผิวหนังอักเสบรังแค และบางครั้งอาจจำเป็นต้องแก้ตาเพื่อลดอาการเรื้อรัง 

เปลือกตาอักเสบ เกิดจากอะไร

เกิดได้จากหลายสาเหตุทั้งจากการติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณขอบตา โดยเฉพาะเชื้อ Staphylococcus ที่อาศัยอยู่บนผิวหนังตามปกติ หรือจากไรขนตา (Demodex) ซึ่งเป็นปรสิตขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ที่โคนขนตา นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากความผิดปกติของต่อมไขมันเมโบเมียนที่เปิดออกบริเวณขอบตา ทำให้น้ำมันที่ผลิตออกมามีความหนืดมากเกินไปจนอุดตันต่อม โรคผิวหนังบางชนิดเช่น ผิวหนังอักเสบรังแค (Seborrheic dermatitis) หรือโรคสิวโรซาเซีย (Rosacea) รวมถึงการแพ้สารบางชนิดในเครื่องสำอาง น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ หรือการใช้คอนแทคเลนส์ไม่ถูกวิธี

เปลือกตาอักเสบ กี่วันหาย

สำหรับคนที่สงสัยว่าเปลือกตาอักเสบกี่วันหายนั้น ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับความรุนแรงและชนิดของเปลือกตาอักเสบ รวมถึงการตอบสนองต่อการรักษาของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปอาการเฉียบพลันอาจดีขึ้นใน 1-2 สัปดาห์หากได้รับการรักษาที่เหมาะสมและมีการทำความสะอาดตาอย่างสม่ำเสมอ แต่ในกรณีที่เป็นเปลือกตาอักเสบเรื้อรังอาจต้องใช้เวลารักษานานกว่า 1 เดือน และอาจต้องมีการดูแลอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ สิ่งสำคัญคือต้องรักษาอย่างครบถ้วนตามที่แพทย์แนะนำ แม้ว่าอาการจะดีขึ้นแล้วก็ตาม เพื่อป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น

หากปล่อยให้เรื้อรังโดยไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ส่งผลกระทบต่อการมองเห็นและคุณภาพชีวิต เช่น ภาวะตาแห้งเรื้อรัง เนื่องจากน้ำมันที่ผลิตจากต่อมเมโบเมียนไม่เพียงพอทำให้น้ำตาระเหยเร็วกว่าปกติ เกิดอาการตาแดง ระคายเคือง และแสบตา นอกจากนี้ยังอาจเกิดการติดเชื้อที่กระจกตา (Keratitis) หรือเยื่อบุตาอักเสบ (Conjunctivitis) ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการมองเห็น บางรายอาจพบการเจริญของเส้นเลือดผิดปกติบนกระจกตาหรือมีแผลที่กระจกตา ในกรณีรุนแรงอาจนำไปสู่การติดเชื้อลุกลามจนเกิดฝีที่เปลือกตา (Stye) หรือถุงใต้ตาและถุงน้ำ (Chalazion) ซึ่งต้องได้รับการรักษาจากแพทย์

เปลือกตาอักเสบมีวิธีรักษาอย่างไร

เปลือกตาอักเสบวิธีรักษาขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของอาการ โดยมีหลักสำคัญคือการทำความสะอาดเปลือกตาและขนตาอย่างสม่ำเสมอ ร่วมกับการใช้ยาเฉพาะที่และการรักษาอื่น ๆ ตามความเหมาะสม สำหรับการทำความสะอาดตานั้น เราสามารถใช้แชมพูเด็กอ่อนผสมน้ำอุ่นหรือน้ำยาทำความสะอาดตาโดยเฉพาะ ชุบสำลีและเช็ดบริเวณขอบตาและโคนขนตาเบา ๆ วันละ 1-2 ครั้ง นอกจากนี้ การประคบอุ่นก็มีส่วนช่วยละลายไขมันที่อุดตันในต่อมเมโบเมียนได้ดี

ยาสเตียรอยด์ (Steroid)

ยาสเตียรอยด์ชนิดหยอดหรือป้ายตาเป็นทางเลือกสำหรับกรณีที่มีการอักเสบรุนแรง โดยช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการได้อย่างรวดเร็ว แต่ควรใช้ภายใต้การดูแลของจักษุแพทย์อย่างเคร่งครัด เนื่องจากมีผลข้างเคียงหากใช้เป็นระยะเวลานาน เช่น ความดันตาสูง เกิดต้อกระจก หรือเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ แพทย์มักจะสั่งใช้ยากลุ่มนี้ในระยะสั้น ๆ เพื่อควบคุมอาการอักเสบเฉียบพลัน และอาจใช้ร่วมกับยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันและรักษาการติดเชื้อแบคทีเรีย ยาสเตียรอยด์มีหลายความเข้มข้น แพทย์จะเลือกให้เหมาะสมกับความรุนแรงของโรคในแต่ละราย

ยาปฏิชีวนะ (Antibiotic)

ยาปฏิชีวนะเป็นการรักษาหลักสำหรับเปลือกตาอักเสบที่มีสาเหตุจากการติดเชื้อแบคทีเรีย โดยมีทั้งแบบหยอดตา ป้ายตา หรือรับประทาน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ ยาปฏิชีวนะชนิดป้ายตามักประกอบด้วยเออริโทรมัยซิน (Erythromycin) หรือเตตร้าไซคลิน (Tetracycline) ซึ่งช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียและลดการอักเสบ สำหรับกรณีเปลือกตาอักเสบเรื้อรังที่เกิดจากไรขนตา แพทย์อาจพิจารณาให้ยาปฏิชีวนะในกลุ่มเมโทรนิดาโซล (Metronidazole) ที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อปรสิต การใช้ยาปฏิชีวนะควรใช้อย่างต่อเนื่องตามที่แพทย์สั่ง แม้ว่าอาการจะดีขึ้นแล้วก็ตาม เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ

น้ำตาเทียม (Artificial Tears)

น้ำตาเทียมเป็นอีกหนึ่งวิธีรักษาที่ช่วยบรรเทาอาการตาแห้งซึ่งมักพบร่วมกับเปลือกตาอักเสบ โดยเฉพาะในกรณีของเปลือกตาอักเสบส่วนหลังที่มีการอุดตันของต่อมเมโบเมียน น้ำตาเทียมช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวตา ลดการระคายเคือง และช่วยชะล้างสิ่งระคายเคืองหรือสารก่อภูมิแพ้ที่อาจตกค้างบนผิวตา ควรเลือกใช้น้ำตาเทียมที่ไม่มีสารกันบูด (Preservative-free) โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องใช้บ่อยกว่า 4 ครั้งต่อวัน เพื่อลดการระคายเคืองจากสารกันบูด บางสูตรมีส่วนผสมของน้ำมันเพื่อช่วยทดแทนน้ำมันจากต่อมเมโบเมียนที่ไม่เพียงพอ 

สรุปบทความ

เปลือกตาอักเสบหากไม่รักษาอาเรื้อรัง

เปลือกตาอักเสบเป็นภาวะที่พบได้บ่อยและอาจกลายเป็นปัญหาเรื้อรังหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม การวินิจฉัยที่ถูกต้องและการเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสมจะช่วยให้อาการดีขึ้นและป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ สิ่งสำคัญคือการทำความสะอาดตาอย่างสม่ำเสมอและการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด สำหรับผู้ที่สนใจแก้ปัญหาเปลือกตาด้านอื่น ๆ สามารถปรึกษาจักษุแพทย์ผู้ชำนาญการของ Sky Clinic ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนตาชั้นเดียวเป็นตาสองชั้น เปิดหัวตา แก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ซ่อนแผลใต้คิ้ว และกำจัดถุงไขมันใต้ตา เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาของคุณ

ที่มา : -