อาการตาเปียกตาแฉะอาจดูเป็นปัญหาเล็กน้อยสำหรับบางคน แต่ในความเป็นจริงแล้วอาการนี้สามารถส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันได้มากกว่าที่คิด โดยเฉพาะในกรณีที่อาการเกิดขึ้นบ่อยครั้งหรือเรื้อรัง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพดวงตาที่ต้องใส่ใจ หากใครกำลังสงสัยว่าอาการตาแฉะเกิดจากอะไร และมีวิธีป้องกันหรือดูแลอย่างไรบ้างเราไปดูในบทความนี้กัน
ตาเปียกตาแฉะเป็นอาการที่น้ำตาหรือสารคัดหลั่งไหลออกมามากกว่าปกติ อาจมาพร้อมกับอาการอื่น ๆ เช่น ตาบวมแดง ระคายเคือง หรือรู้สึกไม่สบายในดวงตา สารคัดหลั่งที่ออกมาอาจเป็นน้ำใส ข้น หรือเหนียว ขึ้นอยู่กับสาเหตุของปัญหา บางกรณีอาการตาแฉะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายพยายามป้องกันดวงตาจากสิ่งแปลกปลอม เช่น ฝุ่นละอองหรือสารเคมี แต่ในบางครั้งอาจเป็นสัญญาณของโรค เช่น เยื่อบุตาอักเสบจากไวรัส เปลือกตาอักเสบ หรือภูมิแพ้ หากมีอาการตาแฉะร่วมกับการมองเห็นผิดปกติหรือปวดตา ควรรีบปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาอย่างถูกต้อง
อาการตาเปียกตาแฉะอาจเกิดจากหลายปัจจัย โดยสาเหตุหลักที่พบได้บ่อย เช่น ภาวะตาแห้ง เยื่อบุตาอักเสบ หรือภูมิแพ้ ซึ่งแต่ละสาเหตุมีรายละเอียด ดังนี้
ภาวะตาแห้งเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการตาแฉะที่พบได้บ่อย เมื่อดวงตาขาดความชุ่มชื้นต่อเนื่อง ต่อมไขมันที่เปลือกตาจะกระตุ้นการผลิตน้ำตามากขึ้นเพื่อชดเชยความชุ่มชื้นที่หายไป ส่งผลให้เกิดน้ำตาไหลมากกว่าปกติ ภาวะนี้เกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น การใช้สายตาในที่แห้ง อากาศเย็น การจ้องจอนาน ๆ หรือการใช้ยาที่ทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ยาแก้แพ้ วิธีบรรเทาคือการใช้น้ำตาเทียมเป็นประจำ และลดการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แห้งเกินไป
เยื่อบุตาอักเสบจากไวรัสเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของอาการตาเปียกตาแฉะ โดยเฉพาะในช่วงที่มีการติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจ สาเหตุนี้มักทำให้ดวงตาแดง น้ำตาไหล และมีสารคัดหลั่งข้นใส หากไม่ได้รับการรักษา อาการอักเสบอาจลุกลามและส่งผลต่อการมองเห็น วิธีป้องกันคือการล้างมือให้สะอาด หลีกเลี่ยงการสัมผัสดวงตา และใช้น้ำตาเทียมช่วยบรรเทาอาการ
เปลือกตาอักเสบหรือ Blepharitis เกิดจากการอักเสบของต่อมไขมันที่เปลือกตา ส่งผลให้เกิดตาแฉะและตาบวม อาการที่พบมักมีเปลือกตาแดง คัน และมีขี้ตาเกาะตัวแน่นตามแนวขนตา วิธีรักษาคือการทำความสะอาดเปลือกตาอย่างสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่ระคายเคืองดวงตา
ขนตาทิ่มตาเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการตาเปียกตาแฉะได้ในบางคน สาเหตุเกิดจากขนตาขึ้นผิดทิศทาง ส่งผลให้ขนตาสัมผัสกับกระจกตาโดยตรง ทำให้ระคายเคืองและน้ำตาไหลเรื้อรัง การรักษาคือการถอนขนตาที่ขึ้นผิดทิศทางหรือแก้ไขโดยจักษุแพทย์
ภูมิแพ้ขึ้นตาเป็นปัญหาที่ทำให้เกิดอาการตาแฉะร่วมกับอาการคันตาและตาแดง สาเหตุเกิดจากการแพ้สารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่น ละอองเกสร หรือขนสัตว์ วิธีป้องกันคือการหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ และใช้ยาหยอดตาลดการอักเสบที่จักษุแพทย์แนะนำ
การป้องกันอาการตาแฉะสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยเริ่มจากการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันและการดูแลตัวเองในด้านต่าง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดปัญหากับดวงตา เช่น ฝุ่นละออง สารเคมี หรืออากาศแห้ง การป้องกันที่ดีไม่เพียงช่วยลดอาการตาเปียกตาแฉะ แต่ยังช่วยรักษาสุขภาพดวงตาในระยะยาวได้ด้วย หากปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้อย่างเคร่งครัด ดวงตาของเราจะสดใส แข็งแรง และห่างไกลจากปัญหาต่าง ๆ
การรักษาความสะอาดเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดในการป้องกันอาการตาแฉะ เพราะดวงตาเป็นอวัยวะที่ไวต่อสิ่งสกปรกและแบคทีเรีย เราควรล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัสดวงตา หลีกเลี่ยงการขยี้ตา และหมั่นทำความสะอาดเครื่องสำอางบริเวณดวงตาให้หมดจดทุกวัน สำหรับผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ ควรล้างเลนส์ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่เหมาะสมและเปลี่ยนเลนส์ตามกำหนด เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรคที่อาจนำไปสู่อาการตาเปียกตาแฉะ
สวมแว่นตา หรือแว่นป้องกันฝุ่นในสถานที่ที่มีฝุ่นละออง หรือสารเคมีเข้มข้น เช่น โรงงาน หรือการทำสวน การป้องกันดวงตาด้วยอุปกรณ์ที่เหมาะสมช่วยลดความเสี่ยงจากการระคายเคือง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอาการ ตาเปียกตาแฉะ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องเผชิญกับสารก่อภูมิแพ้ในชีวิตประจำวัน
การดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวันช่วยให้ร่างกายและดวงตาคงความชุ่มชื้น ลดปัญหาตาแห้งที่เป็นสาเหตุหนึ่งของอาการตาแฉะ สำหรับผู้ที่ทำงานในห้องแอร์หรือสถานที่ที่อากาศแห้ง ควรใช้น้ำตาเทียมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา ช่วยลดความรู้สึกแสบตาและป้องกันการระคายเคืองที่อาจตามมา
เครื่องฟอกอากาศเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดีสำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ หรืออาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีมลพิษสูง เครื่องฟอกอากาศช่วยลดฝุ่นละออง ควัน และสารก่อภูมิแพ้ในบ้าน ทำให้ดวงตาไม่ต้องเผชิญกับสิ่งกระตุ้นเหล่านี้บ่อย ๆ การใช้เครื่องฟอกอากาศจึงช่วยลดอาการตาเปียกตาแฉะ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากอาการตาแฉะเกิดจากปัญหาโครงสร้างของเปลือกตาหรือตาตก การศัลยกรรมแก้ไขปัญหาตาตกอาจเป็นวิธีที่ได้ผล โดยช่วยปรับโครงสร้างดวงตาให้สมบูรณ์ ทำให้ลดการไหลของน้ำตาและช่วยแก้ปัญหา ตาเปียกตาแฉะในระยะยาว ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินปัญหาและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุด
อาการตาเปียกตาแฉะสามารถดูแลและป้องกันเบื้องต้นเพื่อช่วยลดอาการได้ แต่หากอาการยังคงอยู่ควรปรึกษาจักษุแพทย์ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถปรึกษาจักษุแพทย์ผู้ชำนาญการของ Sky Clinic ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการทำตาสองชั้น เปิดหัวตาแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ซ่อนแผลใต้คิ้ว จัดเรียงไขมันใต้ตา และกำจัดถุงใต้ตา เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาได้เลย